นครปฐม - ชาวบ้านในพื้นที่นครปฐมกว่า 2,000 คน จาก 14 ชุมชนในเขตเทศบาลตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล ได้ร่วมกันยื่นหนังสือเรียกร้องอนุมัติเงินช่วยเหลือน้ำท่วมด้านที่อยู่อาศัย 20,000 บาทเท่ากันทุกราย หลังไม่ได้รับความเป็นธรรม หากไม่มีความคืบหน้าใน 7 วันจะปิดถนน ด้านผู้ว่าฯ นครปฐมกร้าวใส่ สั่งดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดหากมีการปิดถนนประท้วง แนะประชาชนอย่าหลงกลทำตามนักการเมืองชวนออกมาประท้วง
วันนี้ (3 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ได้มีกลุ่มชาวบ้านจาก 14 ชุมชน ในเขตเทศบาลตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม กว่า 2,000 คนได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือเรียกร้องกรณีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้านที่อยู่อาศัย 20,000 บาท ซึ่งจากเดิมที่ชาวบ้านดังกล่าวได้รับเงินไปก่อนแล้วนั้นไม่เป็นธรรม และไม่สมเหตุสมผล จึงได้ร่วมกันร่างหนังสือถึงนายนิมิต จันทร์วิมล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เพื่อพิจารณาจ่ายเงินใหม่ให้ครบเท่าเทียมกันทุกหลังคาเรือน รายละ 20,000 บาท
โดยนายบันลือ สง่าจิต นายอำเภอพุทธมณฑล ได้ออกมารับเรื่อง พร้อมกับรับปากชาวบ้านว่าจะนำเรื่องนี้เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ตอนแรก กลุ่มผู้ชุมนุมจะทำการปิดถนนเพื่อประท้วง แต่นายนภดล ปริยพานิช นายกเทศมนตรีตำบลศาลายา ได้ชี้แจงและยับยั้งไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังได้ยื่นคำขาดกับทางจังหวัดนครปฐมว่า หากภายใน 7 วัน ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกิดขึ้น กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดจะทำการปิดถนนเพื่อกดดันต่อไปอย่างแน่นอน
ผู้ว่าฯ นครปฐมกร้าวใส่ สั่งดำเนินการตาม กม.หากปิดถนน
นายนิมิต จันทร์วิมล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดเผยในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการว่า จังหวัดนครปฐม ได้ทำการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างเต็มที่ทั้งตามนโยบายรัฐบาล และตามระเบียบของกระทรวงการคลัง ซึ่งประชาชนมากกว่า 70% ได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว และเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ แต่ยังมีประชาชนบางส่วนที่ไปหลงเชื่อนักการเมืองท้องถิ่นที่ยุยงให้ทำการประท้วงตามแบบอย่างของจังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี โดยหวังว่าจะได้รับเงินเพิ่มขึ้น งที่การจ่ายเงินของจังหวัดนครปฐม ยึดถือระเบียบอย่างเคร่งครัด ดังนั้น การใช้กฎหมู่ย่อมไม่มีผลต่อการได้รับเงินเพิ่มอย่างผิดระเบียบ ยกเว้นเป็นการอุทธรณ์เนื่องจากมีข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวต่อว่า ตนขอชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า เงิน 5,000 บาท ที่กล่าวตามที่นโยบายของรัฐบาลนั้น ได้จ่ายให้อย่างรวดเร็วจนหมดสิ้นแล้ว ในส่วนของเงินตั้งแต่ 0-2,000 บาท ซึ่งว่าด้วยระเบียบของกระทรวงการคลัง มีการสำรวจโดยคณะกรรมการให้แก่ประชาชนที่ประสบปัญหาสาธารณภัย ซึ่งระเบียบนี้มีมานานแล้ว และมีการช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบโดยทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นคณะกรรมการได้ตรวจสอบโดยยึดกฎหมายเป็นหลัก และเป็นไปตามความเสียหายจริง
“จึงขอให้ประชาชนเข้าใจ และอย่าไปหลงเชื่อนักการเมืองที่หวังผลในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะการช่วยเหลือเป็นไปตามขั้นตอน ที่สำคัญ ได้ขอให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจ และผู้มีหน้าที่รับผิดชอบได้ดำเนินการตามกฎหมายอย่าเฉียบขาดหากมีการปิดถนนประท้วง เพราะนโยบายของของทางนายกรัฐมนตรีได้ให้จังหวัดช่วยเหลือประชาชนตามเนื้อผ้าอยู่แล้ว การปิดถนนเป็นการหาเรื่องสร้างความเดือนร้อนให้แก่ประชาชนส่วนใหญ่”
วันนี้ (3 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ได้มีกลุ่มชาวบ้านจาก 14 ชุมชน ในเขตเทศบาลตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม กว่า 2,000 คนได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือเรียกร้องกรณีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้านที่อยู่อาศัย 20,000 บาท ซึ่งจากเดิมที่ชาวบ้านดังกล่าวได้รับเงินไปก่อนแล้วนั้นไม่เป็นธรรม และไม่สมเหตุสมผล จึงได้ร่วมกันร่างหนังสือถึงนายนิมิต จันทร์วิมล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เพื่อพิจารณาจ่ายเงินใหม่ให้ครบเท่าเทียมกันทุกหลังคาเรือน รายละ 20,000 บาท
โดยนายบันลือ สง่าจิต นายอำเภอพุทธมณฑล ได้ออกมารับเรื่อง พร้อมกับรับปากชาวบ้านว่าจะนำเรื่องนี้เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ตอนแรก กลุ่มผู้ชุมนุมจะทำการปิดถนนเพื่อประท้วง แต่นายนภดล ปริยพานิช นายกเทศมนตรีตำบลศาลายา ได้ชี้แจงและยับยั้งไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังได้ยื่นคำขาดกับทางจังหวัดนครปฐมว่า หากภายใน 7 วัน ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกิดขึ้น กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดจะทำการปิดถนนเพื่อกดดันต่อไปอย่างแน่นอน
ผู้ว่าฯ นครปฐมกร้าวใส่ สั่งดำเนินการตาม กม.หากปิดถนน
นายนิมิต จันทร์วิมล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดเผยในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการว่า จังหวัดนครปฐม ได้ทำการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างเต็มที่ทั้งตามนโยบายรัฐบาล และตามระเบียบของกระทรวงการคลัง ซึ่งประชาชนมากกว่า 70% ได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว และเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ แต่ยังมีประชาชนบางส่วนที่ไปหลงเชื่อนักการเมืองท้องถิ่นที่ยุยงให้ทำการประท้วงตามแบบอย่างของจังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี โดยหวังว่าจะได้รับเงินเพิ่มขึ้น งที่การจ่ายเงินของจังหวัดนครปฐม ยึดถือระเบียบอย่างเคร่งครัด ดังนั้น การใช้กฎหมู่ย่อมไม่มีผลต่อการได้รับเงินเพิ่มอย่างผิดระเบียบ ยกเว้นเป็นการอุทธรณ์เนื่องจากมีข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวต่อว่า ตนขอชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า เงิน 5,000 บาท ที่กล่าวตามที่นโยบายของรัฐบาลนั้น ได้จ่ายให้อย่างรวดเร็วจนหมดสิ้นแล้ว ในส่วนของเงินตั้งแต่ 0-2,000 บาท ซึ่งว่าด้วยระเบียบของกระทรวงการคลัง มีการสำรวจโดยคณะกรรมการให้แก่ประชาชนที่ประสบปัญหาสาธารณภัย ซึ่งระเบียบนี้มีมานานแล้ว และมีการช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบโดยทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นคณะกรรมการได้ตรวจสอบโดยยึดกฎหมายเป็นหลัก และเป็นไปตามความเสียหายจริง
“จึงขอให้ประชาชนเข้าใจ และอย่าไปหลงเชื่อนักการเมืองที่หวังผลในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะการช่วยเหลือเป็นไปตามขั้นตอน ที่สำคัญ ได้ขอให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจ และผู้มีหน้าที่รับผิดชอบได้ดำเนินการตามกฎหมายอย่าเฉียบขาดหากมีการปิดถนนประท้วง เพราะนโยบายของของทางนายกรัฐมนตรีได้ให้จังหวัดช่วยเหลือประชาชนตามเนื้อผ้าอยู่แล้ว การปิดถนนเป็นการหาเรื่องสร้างความเดือนร้อนให้แก่ประชาชนส่วนใหญ่”
