ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทัพเรือภาค 1 ส่งเครื่องบินตรวจสอบ และจับกุมกลุ่มเรือประมงเวียดนามที่รุกเขตน่านน้ำไทย หลังได้รับร้องเรียนจากลุ่มประมงไทยในหลายพื้นที่ โดยสามารถจับกุมได้ 2 ลำ แต่เจอคลื่นใหญ่ซัดจม 1 ลำ และสามารถช่วยชีวิตลูกเรือได้ 8 คน พร้อมงูทะเล ที่ถูกเตรียมทำยาโด๊ป
หลังจากที่ พล.ร.ท.ชุมพล วงศ์เวคิน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 (ผบ.ทรภ.1) ได้รับแจ้งจากนายกสมาคมประมงจังหวัดระยอง ทางวิทยุมดดำเครือข่ายทัพเรือภาคที่ 1 จากเรือประมงชื่อ พรมาลี 17 ว่า ได้พบเรือประมงเวียดนาม ประมาณ 10 ลำ ทำการประมงอยู่ห่างจากเกาะจวง ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ ไปทางด้านทิศใต้ ประมาณ 70 ไมล์ทะเล จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องบินดอร์เนี่ย 228 หมายเลข 1115 ออกจากฝูงบิน 104 เพื่อตรวจสอบพิกัดที่ได้รับแจ้ง
และได้รับรายงานว่า พบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ลอยลำหาปลาอยู่ จำนวน 7 ลำ และได้มีการแจ้งพิกัดให้แก่ศูนย์ปฎิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 ทราบ พร้อมสั่งการให้ น.ต.พงศ์นที อินทรบุญ ผู้บังคับการเรือหลวงสู้ไพรินทร์ นำเรือตรวจการณ์ หมายเลข 14 (ต.14) ออกไปตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว ยังพบว่า มีเรือประมงอีก 2 ลำลอยลำอยู่ ห่างกันประมาณ 20 ไมล์ทะเล จึงเข้าทำการจับกุมเรือประมงชาวเวียดนาม หมายเลข CM 9110 TS ยาว 7 วา 2 ศอก สีน้ำเงิน และเข้าจับกุมเรืออีก 1 ลำ ซึ่งปรากฎว่า ขณะที่นำพาเรือประมงทั้ง 2 ลำเดินทางกลับเข้ามาที่ท่าเรือกองเรือยุทธการ ได้เกิดลมและคลื่นใหญ่ ทำให้เรือประมงจมไป 1 ลำ จึงเร่งให้กำลังพลประจำเรือ พร้อมลูกเรือ ช่วยชีวิตลูกเรือชาวเวียดนามไว้ได้ 8 คน โดยได้นำตัวส่งมอบให้แก่ พล.ร.ต.ไชยณรงค์ ขาววิเศษ เสนาธิการ ทัพเรือภาคที่ 1 และนายทหารรัฐธรรมนูญ เพื่อทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริง
พร้อมตรวจสอบเอกสาร อาวุธ และอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารภายในเรืออย่างละเอียด ก่อนนำส่งให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจากการตรวจสอบภายในเรืออย่างละเอียด ยังพบถังพลาสติกที่ภายในมีงูทะเลหลายตัวถูกขังอยู่ เชื่อว่าลูกเรือทั้งหมดน่าจะเตรียมนำไปดองเพื่อเป็นยาโด๊ป
ด้าน พล.ร.ท.ชุมพล วงศ์เวคิน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เผยว่า ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากชาวประมงในหลายพื้นที่ว่า มีเรือประมงชาวเวียดนามเข้ามายึดพื้นที่น่านน้ำไทย และแย่งทำการประมงจำนวนมาก จึงได้สืบสวนหาข่าวด้วยการอบรม และสร้างเครือข่ายวิทยุมดดำประมง ซึ่งสาเหตุที่จับเรือประมงเวียดนามได้เพียง 2 ลำ เป็นเพราะเรือประมงจะทำการประมงห่างกันลำละประมาณ 20-30 ไมล์ทะเล ดังนั้น เมื่อมีการจับกุมก็จะวิทยุแจ้งให้พวกเดียวกันทราบเพื่อหลบหนี
“สำหรับเรือที่จมไป 1 ลำ ขณะนำเข้ามายังท่าเรือสัตหีบนั้น เนื่องจากขณะนี้ในทะเลมีคลื่นลมแรงมาก คลื่นใหญ่ได้ซัดประทะเรือทำให้น้ำเข้าเรือ ไม่สามารถดูดน้ำออกได้ทัน เรือจึงจม แต่น.ต.พงศ์นที อินทรบุญ ผู้บังคับการเรือหลวงสู้ไพรินทร์ พร้อมประจำเรือได้นำเครื่องชูชีพ และอุปกรณ์ช่วยชีวิต ช่วยชีวิตลูกเรือประมง จำนวน 8 คน ไว้ได้ทัน จึงได้ให้เรือตรวจการณ์ 219 (ต.219) ไปรับลูกเรือ และนำเรือเข้ามาส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” พล.ร.ท.ชุมพลกล่าว