นราธิวาส - ตำรวจน้ำนราธิวาส บุกช่วยเหลือ 8 ลูกเรือประมง ถูกล่อลวงพาไปทำงานกลางทะเลโดยไม่เคยได้รับค้าจ้างนาน 5 เดือน สุดโหด ถูกทุบตีอย่างทารุณ จนหนึ่งในนั้นกลายเป็นคนวิกลจริต พร้อมตั้งข้อหาไต้ก๋งเรือทั้ง 2 ลำอีกด้วย
วันนี้ (25 เม.ย.) เวลา 02.00 น. พ.ต.ท.ฟุ้ง ชัยนนท์นอก สารวัตรตำรวจน้ำนราธิวาส ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.นัฐพงศ์ ตาแก้ว หัวหน้าชุดสืบสวนตำรวจน้ำนราธิวาส และ ร.ต.ท.อรรถชัย ออมสินสมบูรณ์ ผบ.เรือตรวจการณ์ 518 นำเรือตรวจการณ์ 518 ออกไปลาดตระเวนเพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับการใช้แรงงานประมงอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งเข้าข่ายคดีการค้ามนุษย์ในกลุ่มของเรือประมงที่กำลังทำการประมงในทะเลอ่าวไทย บริเวณหน้าน่านน้ำ จ.นราธิวาส
ผลการดำเนินการปรากฏว่า ขณะแล่นเรือตรวจการณ์เข้าใกล้เรือประมง ที.อาร์.เอฟ.1214 และเรือประมง เค.เอ็น.เ อฟ.7157 ซึ่งเป็นเรือประมงอวนลากคู่ ขนาดยาว 80 ฟุต เป็นเรือประมงไทย แต่แจ้งทะเบียนเป็นเรือประเทศมาเลเซีย นายบุญตัน ขติคำตัน อายุ 56 ปีบ้านเลขที่ 116/1 ต.ศรีวิชัย อ.ลี้ จ.ลำพูน 1 ในจำนวนลูกเรือของเรือประมงที.อาร์.เอฟ. 1214ได้โบกผ้าขาวม้าขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณในการขอความช่วยเหลือพร้อมกับตะโกนขึ้นว่า มีแรงงานถูกหลอกมาขายแรงงานหลายคน
จากนั้น ร.ต.อ.นัฐพงศ์ ตาแก้ว จึงได้ทำการตรวจสอบเรือทั้ง 2 ลำพบว่า ในเรือประมง ที.อาร์.เอฟ.1214 ซึ่งเป็นเรืออวน มีนายบุญเตรียม ดื่มโชค ราษฏร จ.ชัยภูมิ เป็นไต้ก๋ง สอบถามลูกเรือประมงซึ่งมีทั้งสิ้น 15 คน ทราบว่า ในเรือลำนี้มีลูกเรือประมงถูกหลอกมาขายแรงงานรวม 8 คน
ส่วนในเรือประมงเค.เอ็น.เอฟ.7157 ซึ่งเป็นเรือหูในการลากอวนคู่กับเรือประมงที.อาร์.เอฟ. 1214 มีนายวิชัย สร้อยระย้า ราษฏร จ.เพชรบุรี เป็นไต้ก๋ง สอบสวนลูกเรือประมงในเรือลำนี้ซึ่งมี 4 คนทราบว่า ต่างสมัครใจมาทำงานด้วยกันทั้งหมด
ซึ่งหลังจาก ร.ต.อ.นัฐพงศ์ ตาแก้ว ได้คุมตัวนายบุญเตรียม ไต๋กงเรือประมงที.อาร์.เอฟ. 1214 และนายวิชัย ไต้ก๋งเรือประมง เค.เอ็น.เอฟ.7157 พร้อมด้วยเรือประมงของกลาง 2 ลำ และลูกเรือประมงทั้งหมดรวม 19 คนกลับเข้าถึงฝั่งที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำนราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่ริมตลิ่งของแม่น้ำบางนรา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส พ.ต.ท.ฟุ้งสาร วัตรตำรวจน้ำนราธิวาส ได้แจ้งให้นายอัสซัน ดารามั่น เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ป้องกันและปราบรามการค้ามนุษย์ จ.นราธิวาส มารับตัวลูกเรือประมงที่ถูกแก๊งค้ามนุษย์หลอกขายให้แก่เจ้าของเรือประมงจำนวน 8 คน ไปสอบปากคำเพื่อขยายผลต่อไป
สำหรับลูกเรือประมงที่ถูกแก๊งค้ามนุษย์หลอกขายให้แก่เจ้าของเรือประมงจำนวน 8 คน ได้แก่
1. นายบุญตัน (ไม่ทราบนามสกุล)
2. นายเฮง แก้วดอก อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 20 หมู่ 3 ต. บ้านเนิน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
3. นายยิ่งยศ มหาปัญญาวงศ์ อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 217 หมู่ 3 ต.หนองว้อ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
4.นายสมศักดิ์ บุญธรรม อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 2/6 หมู่ 5 ต.โคกปี่ฆ้อง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
5. นายสมบูรณ์ ทุมพันธ์ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 70 หมู่ 1 ต.เทนมีย์ อ.เมือง จ.สุรินทร์
6. นายศรชัย ศรทอง อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 132 หมู่ 15 ต.ตาลสุม อ.ตาลสุม จ.อุบราชธานี
7. นายศรี สัญชาติลาว ถูกทุบตีจนกลายเป็นบุคคลวิกลจริตไปแล้ว
8. นายโซ สัญญาติมอญ อายุ 28 ปี
สอบสวนนายบุญตัน 1 ในลูกเรือ 8 คน ที่ถูกแก๊งค้ามนุษย์หลอกขายให้แก่เจ้าของเรือประมง และเป็นบุคคลที่โบกผ้าขาวม้าส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำในครั้งนี้ให้การว่า ตนซึ่งเดินทางมาจาก จ.ลำพูน และนายเฮงซึ่งมาจาก จ.เพชรบูรณ์เพื่อหางานทำที่ กทม. ขณะกำลังนั่งเล่นกันอยู่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงมีชายคนหนึ่งมาชักชวนให้ดื่มสุราจนเมา
เมื่อสร่างเมาในวันรุ่งขึ้น พบว่า ตนและนายเฮง ต่างอยู่ในเรือประมงที่กำลังแล่นออกจากฝั่ง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชไปแล้ว เป็นลูกเรือประมงมานาน 5 เดือน ไม่เคยได้ขึ้นฝั่ง และไม่ได้ค่าจ้างด้วย ขณะทำงานถูกไต๋ก๋งทุบตีอย่างทารุณ ล่าสุด นายศรีลูกเรือประมงคนหนึ่งถูกทุบตีที่ศีรษะอย่างแรง จนกลายเป็นโรคประสาทพูดจาไม่รู้เรื่องไปแล้ว 1 คน
ด้าน พ.ต.ท.ฟุ้ง สารวัตรตำรวจน้ำนราธิวาส กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้แจ้งต่อหาต่อนายบุญเตรียม ไต๋ก๋งเรือประมง ที.อาร์.เอฟ.1214 และนายวิชัย ไต้ก๋งเรือประมง เค.เอ็น.เอฟ.7157 คนละ 5 ข้อหา แยกเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.บุคคลต่างด้าว 1 ข้อหา คือ ฐานให้ที่พักพิงแก่บุคคลต่างด้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต, ความผิดตาม พ.ร.บ.การเดินเรือ 2 ข้อหา คือทำการประมงโดยไม่มีใบประกาศนียบัตรรับรองความรู้ และไม่มีใบทะเบียนเรือให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุและโทรคมนาคม อีก 2 ข้อหา คือตั้งสถานีวิทยุโทรคมนาคมในเรือประมงโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหามีและใช้วิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ฟุ้ง สารวัตรตำรวจน้ำนราธิวาส ยังได้กล่าวอีกว่า สำหรับลูกเรือประมงในเรือประมงทั้ง 2 ลำ ที่เหลืออีก 11 คน ซึ่งแยกเป็นคนไทย 6 คน, ชาวกัมพูชา 3 คน และชาวพม่าอีก 1 คนนั้น สอบถามแล้วต่างให้การว่า สมัครใจมาทำงานเป็นลูกเรือประมงด้วยกันทั้งหมดจึงได้คุมตัวลูกเรือชาวกัมพูชา 3 คน และชาวพม่าอีก 1 คน ส่ง สภ.เมืองนราธิวาส ดำเนินคดีในข้อหาลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อไป
นายอัสซันเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ จ.นราธิวาส กล่าวขณะเดินทางมารับตัวลูกเรือประมงผู้เสียหายทั้ง 8 คน เพื่อนำไปพักที่ศูนย์พักเด็กและครอบครัวเพื่อรอให้ทีมงานสหวิชาชีพมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริง ว่าในขั้นต้นทางศูนย์ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ จ.นราธิวาส จะแจ้งข้อหาเพิ่มต่อนายบุญเตรียม ไต๋ก๋งเรือประมง ที.อาร์.เอฟ.1214 และนายวิชัย ไต๋ก๋งเรือประมง เค.เอ็น.เอฟ.7157 ในข้อหาฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวลูกเรือประมงทั้ง 8 คน อีกคนละ 1 ข้อหาด้วย