ตาก - นักลงทุนไทย-เทศแห่เข้าศึกษาลู่ทางลงทุนในแม่สอด-เมียวดีหลังพม่าเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ปธ.หอการค้าตากบอกหลายกลุ่มติดต่อขอข้อมูลไม่เว้นวัน ด้านนายด่านศุลกากรเชื่อค้าไทย-พม่าโตต่อเนื่อง ปีนี้ทะลุ 3 หมื่นล้านแน่ และหลัง AEC เกิดมีสิทธิ์ขยายตัวเพิ่มเป็น 5 หมื่นล้านต่อปี
นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวถึงสถานการณ์การค้า-การลงทุนตามพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า แม่สอด-เมียวดี ว่า ปัจจุบันมีนักธุรกิจทั้งชาวไทยและต่างชาติสนใจที่จะเข้ามาลงทุนที่ชายแดน อ.แม่สอด รวมทั้งจังหวัดเมียวดี เพื่อเตรียมที่จะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 จำนวนมาก
โดยตนได้รับการประสานจากนักธุรกิจและกลุ่มทุนต่างๆ มากมายในการเข้ามาศึกษาลู่ทางและข้อมูลด้านการค้า-การลงทุน เพราะมีความสนใจภายหลังพม่าได้ประกาศจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเมียวดี รวมทั้งเตรียมพื้นที่อีกกว่า 2,500 เอเคอร์เพื่อจัดตั้งเขตนิคมอุตสาหกรรมเมียวดี โดยเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าไปลงทุนในเขตนิคมอุตสาหกรรมแบบลดภาษีรวมทั้งงดภาษีในบางธุรกิจ นับเป็นแรงจูงใจที่ทำให้นักธุรกิจต่างชาติจะเข้าไปลงทุนด้วยปัจจัยดังกล่าว
“และจากการที่นางอองซาน ซูจี ส.ส.พม่า พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ผู้นำฝ่ายค้าน ได้เดินทางมาไทยรวมทั้งเดินทางไปอีกหลายๆ ประเทศและได้รับการยอมรับ นับว่าเป็นภาพลักษณ์ที่ดีที่ได้สร้างให้นักธุรกิจจากนานาชาติมีความมั่นใจและเชื่อมั่นมากขึ้นที่จะหันไปลงทุนในพม่าโดยเฉพาะพื้นที่ชายแดน และมองไปที่ อ.แม่สอด จ.ตาก กับ จ.เมียวดี มากที่สุด” ประธานหอการค้าจังหวัดตากกล่าว
นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวถึงมูลค่าการค้าชายแดนด่านถาวรแม่สอด-เมียวดีตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2555 ว่ามูลค่าการค้าชายแดนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในช่วง 5-6 เดือนแรกของปีนี้มีมูลค่ามากกว่า 21,000 ล้านบาทแล้ว สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 70-80% และคาดว่าในปีนี้มูลค่าการค้าชายแดนจะมากกว่า 30,000 ล้านบาท สูงที่สุดนับแต่มีการเปิดด่านแม่สอด-เมียวดี
สำหรับสินค้าที่มีการส่งออกมากเป็นลำดับต้นๆ คือน้ำมันเชื้อเพลิง, สินค้าอุปโภค-บริโภค ส่วนสินค้านำเข้าคือสิ่งประดิษฐ์และเฟอร์นิเจอร์ โค-กระบือ สินค้าเกษตร และเชื่อว่าหลังเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC ในปี 2558 มูลค่าการค้าชายแดนแม่สอด-เมียวดี จะทะลุสูงขึ้นมากกว่า 50,000 ล้านบาทต่อปี
นายด่านศุลกากรแม่สอดกล่าวเพิ่มเติมว่า การเดินทางมาเยือนประเทศไทยของนางอองซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) รวมทั้งเดินทางมาที่ชายแดนจังหวัดตาก นับเป็นภาพลักษณ์ที่ดีมากที่จะเสริมให้มูลค่าการค้าชายแดนเพิ่มขึ้น เพราะนักธุรกิจมีความมั่นใจที่จะเพิ่มการลงทุนทุกด้าน ประกอบกับขณะนี้การเมืองในพม่าและการยอมรับจากต่างชาติมีมากขึ้น หลังผู้นำพม่าเปิดโอกาสให้นางซูจีมีบทบาทในต่างประเทศเพิ่มขึ้นนับเป็นผลดีต่อพม่า และเป็นการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจและการค้าให้ดียิ่งๆ ขึ้น
นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด กล่าวว่า นโยบายการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ-ท้องถิ่นพิเศษนครแม่สอด ล้วนเป็นนโยบายที่สอดคล้องและรองรับการขยายเขตเศรษฐกิจเมียวดีและการจัดตั้งเขตนิคมอุตสาหกรรมเมียวดี ขณะนี้มีนักธุรกิจจากจีนกลุ่มใหญ่สนใจที่จะเข้ามาลงทุนที่แม่สอด และอาจจะเข้าไปลงทุนในพม่าที่จังหวัดเมียวดี หากมีความชัดเจนเรื่องการใช้แรงงานต่างด้าว นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักธุรกิจชาวไทยจากจังหวัดต่างๆ เช่น สมุทรสาคร กาญจนบุรี กรุงเทพ ฯลฯ เข้ามาขอข้อมูลเพื่อนำไปศึกษาเพื่อการลงทุน