ตาก- พ่อเมืองตาก สั่งตั้งคณะทำงานผลักดันแม่สอด-เมียวดี เป็นเมืองคู่แฝด นำร่องยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรม ไทย-พม่า-ลาว-กัมพูชา พร้อมเตรียมประชุมทำ FOCUS GROUP รับ AEC รัฐ-เอกชนเชื่อยอดการค้าโตได้ถึงปีละ 5 หมื่นล้าน
รายงานข่าวจากจังหวัดตาก แจ้งว่า นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้มีคำสั่งจังหวัดตากที่ 1053/2555 แต่งตั้งคณะทำงานประสานงานโครงการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมกับเมืองคู่แฝดไทย-พม่า-ลาว และกัมพูชา ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก กับจังหวัดเมียวดี เป็นเมืองนำร่องในการจัดทำแผน
โดยระดมตัวแทนทั้งภาครัฐ-เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมเป็นคณะทำงาน ประกอบด้วย ผวจ.ตาก เป็นประธานฯ และคณะทำงาน เช่น นายอำเภอแม่สอด-อุตสาหกรรม-พาณิชย์-นายกเทศมนตรีนครแม่สอด-นายด่านศุลกากรแม่สอด-ผกก.ด่านตรวจคนเข้าเมืองตาก-ผกก.สภ.แม่สอด-โยธาธิการและผังเมือง-แขวงการทางตาก-ประธานสภาอุตสาหกรรม-ประธานหอการค้าตาก-หัวหน้าสำนักงานประสานงานชายแดนไทย-พม่า-ประธานสภาวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-พม่า ฯลฯ รวมกว่า 20 คน เพื่อให้การสร้างเมืองคู่แฝดแม่สอด-เมียวดี มีประสิทธิภาพสูงสุดในการรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC ในปี2558
ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า จังหวัดตาก ร่วมกับ สำนักเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ที่ได้มอบหมายให้ศูนย์บริการวิชาการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินโครงการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมกับเมืองคู่แฝดในกลุ่ม 4 ประเทศ คือ ไทย-พม่า-ลาว และกัมพูชา โดยจะผลักดันจัดตั้ง อ.แม่สอด จ.ตาก กับจังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า เป็นโมเดลเมืองคู่แฝดนำร่องเป็นแห่งแรก เพื่อพัฒนาการลงทุนด้านอุตสาหกรรม-การค้า-การท่องเที่ยวชายแดน โดยได้กำหนดการประชุมคณะกรรมการที่จังหวัดตากแต่งตั้งขึ้นเพื่อให้ทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นในการทำ FOCUS GROUP ในวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.55) ที่โรงแรมเซ็นทารา แม่สอดฮิลล์รีสอร์ต นครแม่สอด
ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก บอกอีกว่า ขณะนี้พม่า ได้จัดตั้งเขตเศรษฐกิจเมียวดีไปแล้ว และได้เตรียมพื้นที่อีกกว่า 2,500 เอเคอร์ เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเมียวดี และเปิดโอกาสให้นักธุรกิจชาวไทย และต่างประเทศเข้าไปลงทุน ดังนั้น ไทยก็ต้องมีการพัฒนาให้นครแม่สอดเป็นเมืองเศรษฐกิจการค้า-การท่องเที่ยว และการลงทุนภาคอุตสาหกรรมควบคู่กันเพื่อให้เป็นเมืองคู่แฝดกับเมียวดีทางเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ
ด้านนายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวถึงมูลค่าการค้าชายแดนด่านถาวรแม่สอด-เมียวดี ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2555 ว่า มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 5 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่ามากกว่า 21,000 ล้านบาทแล้ว สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 20-30% และคาดว่าในปีนี้ มูลค่าการค้าชายแดนจะมากกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นยอดสูงที่สุดนับแต่มีการเปิดด่านแม่สอด-เมียวดี
สำหรับสินค้าที่มีการส่งออกมากเป็นลำดับต้นๆ คือ น้ำมันเชื้อเพลิง, สินค้าอุปโภคบริโภค ส่วนสินค้านำเข้าคือ สิ่งประดิษฐ์ และเฟอร์นิเจอร์ไม้-โคกระบือ สินค้าเกษตร
ขณะที่นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก เชื่อว่า หลังเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC ในปี 2558 มูลค่าการค้าชายแดนแม่สอด-เมียวดี จะทะลุสูงขึ้นมากกว่า 50,000 ล้านบาทต่อปีแน่นอน