ศูนย์ข่าวขอนแก่น-สสจ.ขอนแก่น แจ้งเตือนป้องกัน และเฝ้าระวังไข้หวัดใหญ่ 2009 ระบาด แต่เชื่อป้องกันได้ หากดูแลตัวเองและคนใกล้ชิดให้ใช้ชีวิตอย่างถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคพิษสุราเรื้อรัง ควรระวังเป็นพิเศษ
นายคิมหันต์ ยงรัตนกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่โรงพยาบาลจิตเวช จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น ได้มีการควบคุมสถาณการณ์ไว้ได้แล้ว สรุปมีผู้ป่วย 41 ราย ทุกรายอาการดีขึ้น ไม่พบผู้ป่วยใหม่เพิ่ม ผลตรวจยืนยันเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ปีนี้น้อยกว่าปีที่ผ่านมา และไม่รุนแรง ไม่มีผู้เสียชีวิต ประชาชนไม่ต้องตระหนก
นายคิมหันต์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ของประเทศไทย ในปี 2555 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-11 มิถุนายน 2555 ในภาพรวมมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สำนักระบาดวิทยารายงานทั่วประเทศมีผู้ป่วยทั้งสิ้น 12,594 ราย จาก 77 จังหวัด ร้อยละ 10 เป็นเชื้อเอช 1 เอ็น 1 ไม่พบผู้เสียชีวิต พบมากที่สุดในภาคใต้ รองลงมาคือภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จังหวัดที่พบผู้ป่วยมากที่สุดได้แก่ ลำปาง สงขลา ภูเก็ต อุตรดิตถ์ พังงา กลุ่มอายุที่พบมากคืออายุ 15-44 ปี โดยที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบผู้ป่วยมากที่สุดในกลุ่มอายุ 45-54 ปี จังหวัดขอนแก่นยังไม่มีรายงานพบผู้ป่วย
การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ หากต้องดูแลผู้ป่วย ควรสวมหน้ากากอนามัย เมื่อดูแลเสร็จ ควรรีบล้างมือด้วยน้ำ และสบู่ให้สะอาดทันที ไม่ใช้แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อนอาหาร ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดหน้าร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ใช้ช้อนกลางทุกครั้ง เมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำ และสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังไอ จาม รักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมทั้งไข่ นม ผัก และผลไม้ ดื่มน้ำสะอาด และนอนหลับพักผ่อนให้พอเพียง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงบุหรี่และสุรา
การป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อ หากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ควรลาหยุดงาน หยุดเรียน เป็นเวลา 3-7 วัน ซึ่งจะช่วยลดการแพร่ระบาดได้มาก พยายามหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดคลุกคลีกับคนอื่นๆ สวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่กับผู้อื่น หรือใช้ทิชชู่ปิดจมูกปากทุกครั้งที่ไอจาม ทิ้งทิชชู๋ลงในถังขยะที่มีฝาปิด แล้วล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ ใส่ใจ ห่วงใยคนรอบข้าง สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ
นายคิมหันต์ ยงรัตนกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่โรงพยาบาลจิตเวช จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น ได้มีการควบคุมสถาณการณ์ไว้ได้แล้ว สรุปมีผู้ป่วย 41 ราย ทุกรายอาการดีขึ้น ไม่พบผู้ป่วยใหม่เพิ่ม ผลตรวจยืนยันเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ปีนี้น้อยกว่าปีที่ผ่านมา และไม่รุนแรง ไม่มีผู้เสียชีวิต ประชาชนไม่ต้องตระหนก
นายคิมหันต์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ของประเทศไทย ในปี 2555 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-11 มิถุนายน 2555 ในภาพรวมมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สำนักระบาดวิทยารายงานทั่วประเทศมีผู้ป่วยทั้งสิ้น 12,594 ราย จาก 77 จังหวัด ร้อยละ 10 เป็นเชื้อเอช 1 เอ็น 1 ไม่พบผู้เสียชีวิต พบมากที่สุดในภาคใต้ รองลงมาคือภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จังหวัดที่พบผู้ป่วยมากที่สุดได้แก่ ลำปาง สงขลา ภูเก็ต อุตรดิตถ์ พังงา กลุ่มอายุที่พบมากคืออายุ 15-44 ปี โดยที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบผู้ป่วยมากที่สุดในกลุ่มอายุ 45-54 ปี จังหวัดขอนแก่นยังไม่มีรายงานพบผู้ป่วย
การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ หากต้องดูแลผู้ป่วย ควรสวมหน้ากากอนามัย เมื่อดูแลเสร็จ ควรรีบล้างมือด้วยน้ำ และสบู่ให้สะอาดทันที ไม่ใช้แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อนอาหาร ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดหน้าร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ใช้ช้อนกลางทุกครั้ง เมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำ และสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังไอ จาม รักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมทั้งไข่ นม ผัก และผลไม้ ดื่มน้ำสะอาด และนอนหลับพักผ่อนให้พอเพียง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงบุหรี่และสุรา
การป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อ หากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ควรลาหยุดงาน หยุดเรียน เป็นเวลา 3-7 วัน ซึ่งจะช่วยลดการแพร่ระบาดได้มาก พยายามหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดคลุกคลีกับคนอื่นๆ สวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่กับผู้อื่น หรือใช้ทิชชู่ปิดจมูกปากทุกครั้งที่ไอจาม ทิ้งทิชชู๋ลงในถังขยะที่มีฝาปิด แล้วล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ ใส่ใจ ห่วงใยคนรอบข้าง สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ
