“แม่ปอนด์” วอนอย่าซ้ำเติม-น้องเริ่มซึมเศร้า ปธ.สภาวัฒนธรรมแพร่จวกสื่อใหญ่เมินวัฒนธรรมไทย

แพร่ - แม่ “ปอนด์” สาวโชว์เต้าวาดรูปวอนสังคมหยุดประณามลูกสาว เผยตอนนี้ครอบครัววุ่นวายหมดแล้ว ขณะตนเองต้องดูแลทั้งสามีและหลาน ขณะที่ ผอ.โรงเรียนลองวิทยาส่งครูพบน้องสาว-ครอบครัว ย้ำอย่าหยุดเรียน พร้อมให้กำลังใจ ขณะที่น้องสาวเริ่มมีอาการซึมเศร้า

รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่แจ้งว่า นายประหยัด เกียรติสมบูรณ์ ผอ.โรงเรียนลองวิทยา ได้ส่งครูผู้ปกครองประจำตำบลห้วยอ้อไปพบน้องเอ๋ (นามสมมติ) น้องสาวน้องปอนด์ เมื่อเย็นวานนี้ (20 มิ.ย.) เนื่องจากน้องเอ๋ได้รับผลกระทบทางจิตใจอย่างหนัก เพื่อให้มีกำลังใจและไม่ควรหยุดเรียน ทางโรงเรียนได้พยายามทำความเข้าใจกับนักเรียนและครู ซึ่งทุกคนพร้อมให้กำลังใจขอให้ไปโรงเรียน ซึ่งน้องเอ๋ก็ทำตามที่ครูแนะนำ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ด้วยความเครียดทำให้น้องเอ๋มีอาการป่วยซึมเศร้าแล้ว ในเวลาเดียวกันสภาวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ก็ส่งผู้แทนเข้าเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวน้องปอนด์ด้วย

ขณะที่บิดาของน้องปอนด์ วัย 70 ปี ซึ่งนอนเป็นอัมพาตมานาน 12 ปี เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงกับร้องไห้น้ำตาไหลบ่อยครั้ง แต่ไม่สามารถตอบโต้หรือช่วยลูกสาวได้เลย ด้วยเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ครอบครัวน้องปอนด์เริ่มปฏิเสธสังคมไม่อยากให้ใครมาหา เพราะยิ่งมาหาก็ยิ่งทำให้เหตุการณ์บานปลายหนักขึ้น

มารดาของน้องปอนด์กล่าวกับผู้แทนสภาวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ว่า ขอให้สังคมเลิกประณามลูกสาว และขอให้ครอบครัวของตนอยู่อย่างเดิม ไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายอีกแล้ว วันนี้ญาติพี่น้องเดือดร้อนกันหมด ชาวบ้านจับจ้องมาที่ครอบครัวของตนจนไม่กล้าที่จะออกไปไหนแล้ว

ผู้เป็นแม่ยังกล่าวถึงน้องปอนด์ว่า ลูกสาวไปทำงานที่กรุงเทพฯ มีสามีอยู่ที่ขอนแก่น หลังคลอดลูกก็นำลูกมาให้เลี้ยง ต้องดูแลทั้งสามีและหลาน ให้อาหาร พาเข้านอน บางคืนก็ไม่ได้นอนเลย ลำบากมาก ส่วนลูกคนเล็กยังเรียนอยู่ ม.4 ก็ไม่รู้ว่าลูกสาวคนเล็กจะเรียนต่อได้หรือไม่เพราะที่บ้านไม่มีรายได้หรือความรู้พอที่จะส่งเสริมให้ลูกไปทำงานที่ดีขึ้น ทุกวันต้องออกไปทำงานรับจ้างทำนา ต้องกลับเข้าบ้านทั้งกลางวันและช่วงเย็นเพราะต้องดูแลหลานและสามี ที่ทั้งสองคนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ถ้ากลับมาช้าก็ได้กินข้าวช้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพของครอบครัวน้องปอนด์ที่ย่ำแย่หนัก ทำให้กระแสประณามน้องปอนด์ที่ยอมทำตามการว่าจ้างของบริษัทที่ผลิตรายการทางช่อง 3 ลดลง และเริ่มมีความเห็นใจที่ผู้หญิงคนเดียวต้องหาเงินช่วยเหลือครอบครัวถึง 4 คน โดยน้องปอนด์รับปากกับแม่ว่าไม่ต้องห่วงจะช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ช่วงที่น้องปอนด์นำลูกมาฝากได้ส่งเงินมาให้อย่างสม่ำเสมอเพราะทราบดีถึงภาระของผู้เป็นแม่ และเมื่อถึงเวลาใกล้ค่ำมารดาของน้องปอนด์ก็ทำหน้าที่กางมุ้งไล่ยุงให้สามี ดูแลหลานเข้านอน แม้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะกระทบรุนแรงเช่นไร แต่หน้าที่ในการดูแลทุกคนในครอบครัวยังคงต้องดำเนินต่อไป

นายเอกชัย วงศ์วรกุล ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นละเอียดอ่อนมาก เวลาสื่อสารผ่านทางสื่อต่างๆ อาจได้สาระไม่ครบถ้วน กรณีที่ผิดศีลธรรมถอดเสื้อเปลือยกายท่อนบนออกทีวี กรณีนี้ต้องแก้เพราะขัดต่อวัฒนธรรมไทยอย่างรุนแรง เมื่อผ่านสื่อในเวลาที่มีคนดูทีวีมาก สะท้อนภาพที่เห็นชัดว่าหน่วยงานด้านวัฒนธรรมต้องทำงาน ที่สำคัญคือคนรุ่นใหม่เริ่มไม่เห็นคุณค่าของวัฒนธรรมไทยแล้ว

ประการต่อมา ความเห็นใจที่น้องปอนด์ทำงานหาเงินเพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่เผชิญชะตากรรมแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ สังคมต้องช่วยกันเยียวยาและหาทางแก้ปัญหาครอบครัวอื่นๆ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก และประการสุดท้ายคือ สื่อที่นำเสนอทำให้สังคมไทยรู้สึกผิดหวังมากกับสื่อใหญ่ของประเทศยังไม่สนใจวัฒนธรรม ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด

นายเอกชัยย้ำว่า ทั้ง 3 ประเด็นคือภาพสะท้อนและบทเรียนของสังคมไทยที่พบว่า ยิ่งทำให้ประเทศเจริญมากขึ้น วัฒนธรรมก็ยิ่งต่ำลง เราจะทำให้เกิดความสมดุลได้ทุกฝ่ายต้องเอากรณีน้องปอนด์เป็นบทเรียนและช่วยกันแก้ไขโดยด่วน