กาญจนบุรี - นายตำรวจสายข่าว ตชด.13 ขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดีอาญาและแพ่งต่อ นสพ.ไทยรัฐ และนายก อบต.คลองขนาก อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง พร้อมเรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาท ฐานทำให้เสียชื่อเสียงและกระทบต่อหน้าที่
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (19 มิ.ย.55) พ.ต.ท.พิทักษ์ วาฤทธิ์ สว.กก.ตชด.13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้า ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมศักดิ์ สุวรรณฉิม พงส.สบ.3 สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และ ด.ต.ศิลปชัย สว่างโรจน์ นายก อบต.คลองขนาก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทองพร้อมเรียกค่าเสียหายรวมกัน 200 ล้านบาท
พ.ต.ท.พิทักษ์ วาฤทธิ์ สว.กก.ตชด.13 เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตนเดินทางมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนในครั้งนี้เนื่องจากเมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) ด.ต.ศิลปชัย สว่างโรจน์ นายก อบต.คลองขนาก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ได้หอบเอกสารพร้อมทั้งรูปภาพต่างๆ มาร้องเรียนผู้บังคับบัญชาของตนเพื่อให้มีคำสั่งย้ายตนออกนอกพื้นที่ โดยให้เหตุผลตามที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 19 มิถุนายน 2555 หน้า 12 ที่ได้ตีพิมพ์ออกมา
โดยขึ้นหัวข้อว่า ตั้ง กก.สอบ สว.ตชด.รีดไถจับนายก อบต. ซึ่งหลังจากที่ตนได้อ่านรายละเอียดจากหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว พบว่าที่นายก อบต.คลองขนาก ให้ข้อมูลนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด อีกทั้งยังเป็นการใส่ร้ายป้ายสี ทำให้ตนเสียชื่อเสียงและเกียรติยศเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีผลต่อหน้าที่การงานของตนโดยตรง
อีกทั้งหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวได้ลงตีพิมพ์ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่เป็นเท็จ ดังนั้น ตนจึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินทั้งทางคดีอาญาและทางแพ่งโดยมีหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เป็นจำเลยที่ 1 มี ด.ต.ศิลปะชัย สว่างโรจน์ นายก อบต.คลองขนาก ผู้ให้ข้อมูลเป็นจำเลยที่ 2 พร้อมทั้งเรียกค่าเสียหายจากทั้ง 2 เป็นเงินรวมกัน 200 ล้านบาท
ส่วนข้อมูลเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ตนมีเกี่ยวกับการกระทำผิดของนายก อบต.วังขนาก ตนขอปิดเป็นความลับเนื่องจากจะขอรวบรวมเพื่อส่งมอบให้กับทนายความเป็นผู้ดำเนินการทางด้านกฎหมายต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันด้วยเกียรติของนายตำรวจว่า ที่ผ่านมาตนปฏิบัติหน้าที่ทางด้านการข่าวอย่างตรงไปตรงมาไม่เคยกลั่นแกล้งประชาชนแต่อย่างใด ที่สำคัญตนกับนายก อบต.คลองขนาก ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่อย่างใด และไม่เคยเห็นหน้ากันด้วยซ้ำและตนจะไปกลั่นแกล้งเรื่องอะไร ซึ่งทุกอย่างขอให้ไปสู้กันในชั้นศาลก็แล้วกัน
ด้าน พ.ต.อ.สมศักดิ์ สุวรรณฉิม พนักงานสอบสวน สบ.3 สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งความเอาไว้แล้วขั้นตอนต่อไปจะต้องออกหมายเรียกให้คู่กรณีทั้งสองมาพบเพื่อสอบปากคำตามขั้นตอนของกฎมาย ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย