พระนครศรีอยุธยา - ชาวบ้านเมืองกรุงเก่า ครวญน้ำเจ้าพระยาระดับเพิ่มสูงขึ้นจนตลิ่งพังถึงเสาบ้าน วอนหน่วยงานรัฐเร่งซ่อมแซ่ม
สถานการณ์ระดับน้ำในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันนี้ (19 มิ.ย.) พบว่า มีระดับน้ำในแม่น้ำทุกสาย ทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำป่าสัก มีระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อยที่เป็นแม่น้ำสายหลักของการระบายน้ำจากภาคเหนือ และภาคกลางตอนบนผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่ จ.ชัยนาท ลงสู่ทะเล โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นนอกจากจะทำให้ชาวบ้านหวั่นเกรงว่าจะเกิดน้ำท่วมยาวนานเหมือนปี 2554 เพราะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำของภาคกลางแล้ว ยังทำให้แนวตลิ่งเริ่มพังถล่มเป็นช่วงๆ เกือบตลอดทั้งสายด้วย
นางสมจิตร อ่อนสุวรรณ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 1 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาต้องอยู่อาศัยอย่างหวาดผวากับสภาพของตลิ่งที่พังเข้ามาถึงเสาบ้านแล้ว หลังน้ำลดตลิ่งเริ่มพัง ล่าสุด พังเข้ามาเกือบ 10 เมตรจนถึงเสาบ้าน ทำให้ตลิ่งหน้าบ้านกลายเป็นหุบเหว และช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้ตลิ่งพังเพิ่มขึ้นยาวตลอดพื้นที่หมู่ 1 ตั้งแต่ทิศเหนือจนถึงกลางหมู่บ้านยาวกว่า 1 กม.ซึ่งมีบ้านเรือนตั้งปลูกอาศัยริมแม่น้ำได้รับความเดือดร้อนแล้วไม่ต่ำกว่า 40 หลัง จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งซ่อมแซมเพื่อป้องกันแนวตลิ่งพังเพิ่มอีก หากปล่อยไว้เช่นนี้ แนวตลิ่งจะพังลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ชาวบ้านไม่อยากย้ายบ้านหนีเพราะไม่มีที่ดินปลูกสร้างใหม่
สถานการณ์ระดับน้ำในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันนี้ (19 มิ.ย.) พบว่า มีระดับน้ำในแม่น้ำทุกสาย ทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำป่าสัก มีระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อยที่เป็นแม่น้ำสายหลักของการระบายน้ำจากภาคเหนือ และภาคกลางตอนบนผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่ จ.ชัยนาท ลงสู่ทะเล โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นนอกจากจะทำให้ชาวบ้านหวั่นเกรงว่าจะเกิดน้ำท่วมยาวนานเหมือนปี 2554 เพราะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำของภาคกลางแล้ว ยังทำให้แนวตลิ่งเริ่มพังถล่มเป็นช่วงๆ เกือบตลอดทั้งสายด้วย
นางสมจิตร อ่อนสุวรรณ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 1 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาต้องอยู่อาศัยอย่างหวาดผวากับสภาพของตลิ่งที่พังเข้ามาถึงเสาบ้านแล้ว หลังน้ำลดตลิ่งเริ่มพัง ล่าสุด พังเข้ามาเกือบ 10 เมตรจนถึงเสาบ้าน ทำให้ตลิ่งหน้าบ้านกลายเป็นหุบเหว และช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้ตลิ่งพังเพิ่มขึ้นยาวตลอดพื้นที่หมู่ 1 ตั้งแต่ทิศเหนือจนถึงกลางหมู่บ้านยาวกว่า 1 กม.ซึ่งมีบ้านเรือนตั้งปลูกอาศัยริมแม่น้ำได้รับความเดือดร้อนแล้วไม่ต่ำกว่า 40 หลัง จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งซ่อมแซมเพื่อป้องกันแนวตลิ่งพังเพิ่มอีก หากปล่อยไว้เช่นนี้ แนวตลิ่งจะพังลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ชาวบ้านไม่อยากย้ายบ้านหนีเพราะไม่มีที่ดินปลูกสร้างใหม่
