พระนครศรีอยุธยา - เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำล้นตลิ่งทะลักเข้าคลองบางหลวง สูงกว่า 1 เมตร ท่วมนาปรังชาวนารอบแรกจมน้ำกว่า 500 ไร่ ชาวนาต้องปิดประตูระบายน้ำตั้งเครื่องสูบรักษาแปลงนาข้าว ไร้หน่วยงานช่วยเหลือ ต้องลงขันซื้อน้ำมันสูบกันเอง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ที่ตำบลทางช้าง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า น้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ที่ระบายลงมายังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าคลองบางหลวง กำลังไหลเอ่อทะลักเข้าท่วมนาข้าวของชาวนา (ที่ลุ่ม) จนได้รับความเสียหาย และชาวนากำลังเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำข้ามบานประตูระบายน้ำคลองตานึ่ง กันอย่างเร่งรีบเพื่อกู้แปลงนาข้าว จึงเดินทางไปตรวจพิสูจน์
พบว่า ชาวนากำลังเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำแบบท่อพญานาคขนาดใหญ่ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 4 สูบ เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากแปลงนาข้าวกันอย่างเร่งด่วน โดยพบว่าระดับน้ำคลองบางหลวงสูงกว่าแปลงนาข้าวของชาวนำประมาณ 1.50 เซนติเมตร แปลงข้าวส่วนใหญ่กำลังออกรวงใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ และมีแปลงนาบางส่วนจมน้ำได้รับความเสียหายไปแล้ว
นายประสิทธิ์ ฤกษ์สงเคราะห์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม. 6 ต.ทางช้าง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ทำนาปรังกว่า 200 ไร่ บอกว่า น้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาที่ระบายลงมาในขณะนี้ ผสมกับน้ำฝนที่ตกลงมา ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองบางหลวง ที่รับน้ำมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา มีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วผิดปกติ จนต้องทำการปิดประตูระบายน้ำคลองตานึ่ง ไม่ให้น้ำจากคลองบางหลวงไหลเข้าท่วมแปลงนาข้าวของตนเอง และของเพื่อนชาวนาด้วยกันกำลังออกรวงจมน้ำแล้วกว่า 500 ไร่ ต้องลงขันซื้อน้ำมันช่วยกันเร่งสูบน้ำออก โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำแบบพญานาคขนาด 8 นิ้ว ติดเครื่องยนต์ 4 สูบ เร่งสูบน้ำข้ามบานประตูระบายน้ำคลองตานึ่งลงคลองบางหลวง
นายประสิทธิ์ เปิดเผยต่อว่า นาที่ทำอยู่เป็นแปลงนาข้าวที่อยู่ในโครงการแก้มลิง เป็นพื้นที่รับน้ำแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล ให้ปลูกข้าวนาปรังได้เพียงครั้งเดียว เพราะเป็นเขตพื้นที่รับน้ำ พอข้าวเริ่มจะเก็บเกี่ยว ต้องมาจมน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาที่ระบายลงมาอีก ไม่รู้จะทำอย่างไร ทำนาเดือดร้อนเรื่องน้ำทุกปีไม่สิ้นสุด รัฐบาลให้ทำครั้งเดียวก็ยังได้รับความเดือดร้อนอีก และไม่มีใครมาเหลียวแล ต้องช่วยเหลือตัวเอง ลงขันหาเงินมาซื้อน้ำมันสูบน้ำออก
“น้ำที่ท่วมแปลงนาข้าวก็เกิดจากการปล่อยของเขื่อนลงมา ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติที่พอรับกันได้ แต่นี่เกิดจากการระบายน้ำของเขื่อนมาสร้างความเดือดร้อนให้พวกเรา ทางราชการน่าจะมาเหลียวแลกันบ้างในเรื่องของค่าใช้จ่ายสูบน้ำก็ยังดี”
