ตาก - ผู้จัดการธนาคารทหารไทย สาขาตาก อาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจของลูกค้าแอบปลอมลายเซ็นเบิกเงินลูกค้า กว่าจะรู้ตัวเกือบ 2 เดือน พบเงินสูญเกลี้ยงกว่า 50 ล้านบาท
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองตาก พ.ต.ท.ชวนันต์ ม่วงมิตร สบ.3 สวส.สภ.เมือง จ.ตาก รับแจ้งความจากนายสุชาติ จงศิริการค้า อายุ 54 ปี เจ้าของห้างทองเจริญไทย เลขที่ 14 ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วยทีมทนายความ ให้ดำเนินคดีต่อนายเกียรติวงษ์ ศรายุทธ ผู้จัดการธนาคารทหารไทย สาขาตาก ฐานปลอมแปลงเอกสารสมุดบัญชีเงินฝากแล้วเบิกถอนเงินไปทำให้ได้รับความเสียหายให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี หลังก่อเหตุแล้วได้หลบหนีไปตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2555 นานเกือบ 2 เดือน
นายสุชาติเปิดเผยว่า รู้จักนายเกียรติวงษ์มานานกว่า 25 ปี รู้จักกันดีด้วยเป็นคนจังหวัดอุตรดิตถ์เหมือนกัน รวมทั้งได้ฝากเข้าทำงานธนาคารทหารไทย สาขาอุตรดิตถ์ ด้วยการหาเงินฝากได้ตามเป้า และไว้ใจให้นำเงินฝาก-ถอนจากธนาคารอยู่เป็นประจำ เนื่องจากนายเกียรติวงษ์ให้บริการดี
จนกระทั่งมีตำแหน่งสูงขึ้นเป็นผู้จัดการธนาคารทหารไทย สาขาตาก ก็ยังใช้บริการกันอยู่เรื่อยมา และเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2555 นายเกียรติวงษ์ขอให้ช่วยฝากเงินประจำ 3 เดือนจำนวน 24 ล้านบาท โดยจะให้ดอกเบี้ยสูง ตนจึงโอนเงินมาเข้าบัญชีฝากประจำ เลขที่บัญชี 377-3-01978-5 สาขาตาก มียอดทั้งหมด 49,243,764.07 บาท
จนเวลาผ่านไป 3 เดือน ตนต้องการนำเงินไปซื้อทองคำ จึงแจ้งนายเกียรติวงษ์ขอถอนเงินจำนวน 24 ล้านบาท โดยมอบสมุดบัญชีให้นายเกียรติวงษ์ไป และนายเกียรติวงษ์รับปากว่าจะเบิกเงินให้ในวันที่ 17 เมษายน 2555 แต่แล้วในวันที่ 18 เมษายนก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจนถึงปัจจุบัน ตนจึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนายเกียรติวงษ์ดังกล่าว
นายสุชาติยังบอกด้วยว่า นอกจากนี้ นายเกียรติวงษ์ได้ปลอมสมุดบัญชีเงินฝากรวม 2 เล่มเพื่อเบิกจ่ายเงินในบัญชีทั้ง 2 เล่มของตนเองไปกว่า 51 ล้านบาทจนหมดทั้ง 2 เล่ม พบลายเซ็นปลอมเบิกเงินทั้ง 2 เล่ม 67 ครั้ง ซึ่งทางธนาคารทหารไทยได้เจรจาด้วยปากเปล่าว่าจะชดใช้ให้ 28 ล้านบาทตามที่มีหลักฐานการเบิกจ่ายปลอมเท่านั้น ส่วนที่เหลือให้ไปหาหลักฐานการเบิกจ่ายมายืนยัน แต่ตนไม่ยอมเพราะยอดเงินมีมากกว่า 51 ล้านบาท จึงขอดำเนินการไปตามกฎหมาย