นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีประชาชนให้ความสนใจสอบถามเข้ามาเกี่ยวกับกรณีการลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนคุ้มครองเงินฝากเหลือ 0.01% จาก 0.4% ตามแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินนั้น ทางสถาบันฯ ยืนยันความมั่นใจได้ว่าไม่เป็นปัญหา เพราะสถาบันฯ ยังทำหน้าที่เหมือนเดิม แต่ในทางปฏิบัติหากเกิดปัญหาลุกลามจนกระทั่งกระทบระบบสถาบันการเงินขึ้นมาจริงๆ หน่วยงานภาครัฐก็จะต้องช่วยกันเข้าไปดูแลช่วยแก้ไขปัญหา เหมือนกับประเทศสหรัฐอเมริกา หรือญี่ปุ่น ที่รัฐบาลเข้าไปดูแลสถาบันการเงินในช่วงวิกฤต เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ฝากเงิน ประกอบกับในขณะนี้ระบบสถาบันการเงินไทยยังแข็งแกร่ง หลังจากมีบทเรียนจากวิกฤตปี 2540 ทำให้สถาบันการเงินและประชาชน รวมทั้งผู้กำกับดูแลมีการปรับตัว ระมัดระวังป้องกันความเสี่ยง
ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจไทยได้มีการขยายตัวที่ดีขึ้น ธนาคารพาณิชย์มีความแข็งแกร่ง เพราะมีระดับเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงค่อนมั่นคงมีกว่า 1 เท่าจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ซึ่งค่อนข้างมั่นคงสูง โอกาสที่ธนาคารพาณิชย์จะมีปัญหาจนถูกปิดมีน้อยมาก
ทั้งนี้ สถาบันคุ้มครองเงินฝากกฎหมาย ได้กำหนดให้ปรับการคุ้มครองเงินฝากมาอยู่ 50 ล้านบาทต่อรายในปัจจุบัน และจะลดเหลือ 1 ล้านบาทต่อราย ในสิงหาคม 2555 นี้ ครอบคลุมบัญชีเงินฝากถึง 98.5 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม วงเงินคุ้มครองสามารถทบทวนและปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม เช่นในต่างประเทศหลังเกิดวิกฤตซับไพร์มเมื่อปี 2551 ก็ได้มีการปรับเพิ่มวงเงินการคุ้มครองเงินฝาก ณ สิ้นปี 2554 มีจำนวนผู้ฝากเงินที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองเงินฝากจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากรวมทั้งสิ้นประมาณ 60 ล้านราย ผู้ฝากส่วนใหญ่ร้อยละ 98.45 เป็นผู้ฝากเงินที่มีวงเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยคิดเป็นเงินฝากทุกประเภทที่ได้รับความคุ้มครองมีจำนวนทั้งสิ้น 7.3 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นการคุ้มครองทั้งส่วนของเงินฝากของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจไทยได้มีการขยายตัวที่ดีขึ้น ธนาคารพาณิชย์มีความแข็งแกร่ง เพราะมีระดับเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงค่อนมั่นคงมีกว่า 1 เท่าจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ซึ่งค่อนข้างมั่นคงสูง โอกาสที่ธนาคารพาณิชย์จะมีปัญหาจนถูกปิดมีน้อยมาก
ทั้งนี้ สถาบันคุ้มครองเงินฝากกฎหมาย ได้กำหนดให้ปรับการคุ้มครองเงินฝากมาอยู่ 50 ล้านบาทต่อรายในปัจจุบัน และจะลดเหลือ 1 ล้านบาทต่อราย ในสิงหาคม 2555 นี้ ครอบคลุมบัญชีเงินฝากถึง 98.5 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม วงเงินคุ้มครองสามารถทบทวนและปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม เช่นในต่างประเทศหลังเกิดวิกฤตซับไพร์มเมื่อปี 2551 ก็ได้มีการปรับเพิ่มวงเงินการคุ้มครองเงินฝาก ณ สิ้นปี 2554 มีจำนวนผู้ฝากเงินที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองเงินฝากจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากรวมทั้งสิ้นประมาณ 60 ล้านราย ผู้ฝากส่วนใหญ่ร้อยละ 98.45 เป็นผู้ฝากเงินที่มีวงเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยคิดเป็นเงินฝากทุกประเภทที่ได้รับความคุ้มครองมีจำนวนทั้งสิ้น 7.3 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นการคุ้มครองทั้งส่วนของเงินฝากของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
