เชียงราย - กลุ่มสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงฯ ยังคงพยายามเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงเพิ่มไม่หยุด สวนทางปรองดอง ย้ำจะทำให้ถึง 3 หมื่นหมู่บ้าน ขณะที่แกนนำบางคนเริ่มรู้สึกถูก ปตท.ต้ม หลังเห็นข้อมูลคนไทยซื้อน้ำมันแพงกว่าอเมริกา 50% ทั้งที่ ปตท.ส่งน้ำมันไปขายให้อเมริกา แต่ “สุนัย” ยังวนอยู่กับศึก “อำมาตย์-ทักษิณ”
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงรายแจ้งว่า สมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้พากันไปเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงเพิ่มเติมอีกที่บริเวณร้านแม็กคาร์แคร์ บ้านป่ารวก ม.1 ต.ธารทอง อ.พาน จ.เชียงราย เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์นี้
โดยมีการนำคณะจากสมาพันธ์ฯ ยกทีมไปเปิดพร้อมปราศรัย เช่น ร.ต.ต.กมลศิลป์ สิงหะสุริยะ ประธานสมาพันธ์ฯ, นายอานนท์ แสนน่าน เลขาธิการสมาพันธ์ฯ, นายนที สรวารี แกนนำกลุ่มสร้างสรรค์กิจกรรมอิสระชน และแกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ฯลฯ ครั้งนี้ยังมีนายสุนัย จุลพงศธร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และนายพันทิวา ภูมิประเทศ หรือทอม ดันดี นักร้องเดินทางไปร่วมด้วย
สำหรับการเปิดหมู่บ้านครั้งนี้กระทำเหมือนทุกครั้งคือ มีการเปิดที่จุดเดียวกัน จากนั้นมอบธงให้แต่ละหมู่บ้านที่ร่วมเปิดนำไปติดตามหมู่บ้านของตนเอง โดยครั้งนี้ประกอบไปด้วยบ้านป่ารวก บ้านสองแคว ม.2 บ้านดงขุน ม.7 บ้านดงนคร ม.10 บ้านนิคมแม่ลาวเหนือ ม.11 ต.ธารทอง และบ้านทรายมูล ม.8 ต.สันกลาง อ.พาน บ้านดงมะดะ ม.7 บ้านผาบ่อง ม.8 บ้านท่าสันกลาง ม.14 ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว โดยมีมวลชนเข้าร่วมประมาณ 150 คน
ร.ต.ต.กมลศิลป์กล่าวยืนยันว่า ยังคงจะเดินหน้าเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงให้ได้ 30,000 หมู่บ้านทั่วประเทศเช่นเดิม เพื่อให้มีการปล่อยแนวร่วมคนเสื้อแดง และแกนนำ นปช.รวมทั้งเรียกร้องให้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่สำคัญช่วงนี้คือการต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหาร และให้ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถเดินทางกลับสู่ประเทศไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ จึงจำเป็นต้องเอาชนะอำมาตย์และพรรคประชาธิปัตย์ให้ได้
ด้านนายนทีกล่าวว่า ปัจจุบันมีคนมาคอยปกป้องรัฐธรรมนูญโจร และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่เป็นกลางทำให้คนเสื้อแดงจึงล่ารายชื่อเพื่อถอดถอน เนื่องจากพวกเราต้องการให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรือง หากใช้รัฐธรรมนูญและการปกครองที่เป็นประชาธิปไตยก็จะเจริญ ทั้งนี้ควรจะเจริญมานานแล้ว แต่ในปี 2519 รัฐบาลได้วางแผนนโยบายพลังงานแห่งชาติ หลังขุดพบบ่อน้ำมันในหลายแห่ง
จากนั้นเกิดความวุ่นวายทำให้รัฐบาลไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้ ในปี 2520 ได้มีการตั้งบริษัทการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ขึ้นมา ซึ่งทำให้ในปัจจุบันมีการขุดเจาะพบน้ำมันเพื่อส่งไปขายต่อที่สหรัฐอเมริกา แล้วก็รับจากสหรัฐอเมริกานำกลับมาขายในประเทศต่ออีกทอดหนึ่ง จึงทำให้น้ำมันมีราคาแพงกว่าสหรัฐอเมริกาถึง 50% จึงสงสัยว่าเงินที่เราควรได้หายไป และเรากลายเป็นคนถูกหลอกตลอด
ขณะที่นายสุนัยกล่าวว่า การยึดอำนาจมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ ในสมัยโบราณใช้กำลังและรถถังออกมายึด แต่ยุคใหม่ใช้ศาลรัฐธรรมนูญและกฎหมายยุบพรรค ซึ่งทำมาแล้ว 2 รัฐบาล คราวนี้จะล้มรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อีก โดยใช้มาตรา 68 ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลมา 2 ปีไม่ทำอะไรและไม่ต้องการการปรองดอง มีการจับมือกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่หากปล่อยให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เดินหน้าต่อไปจะทำให้ประเทศเดือดร้อน เพราะอำมาตย์ใช้อำนาจมากเกินไป อนาคตจึงจะล้มได้ยาก
นายสุนัยกล่าวอีกว่า ตลอดเวลา 60 ปีที่ผ่านมาอำมาตย์ไม่ถูกใจกฎหมายก็ฉีกทิ้ง ดังนั้นถ้ามีการยึดอำนาจเมื่อไหร่เราก็จะฟาดมันเมื่อนั้น แต่เราก็จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะต้องการให้เป็นประชาธิปไตย และสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น คนที่ขัดขวางคือพรรคประชาธิปัตย์เพราะเป็นลูกน้องของอำมาตย์ ทั้งนี้ ถ้าในอนาคต พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา จะทำรัฐสวัสดิการให้เราอยู่ดีกินดี