พิจิตร - วัยรุ่นพิจิตรเหิมเกริมหนัก ชัก 9 มม.ยิงตำรวจ หลังถูกตามไล่จับ ก่อนทิ้งรถหนีซุกป่าละเมาะกลางสระบัว แต่สุดท้ายก็ไม่รอด ถูกจับได้ พบเป็นแก๊งค้ายาบ้า แถมเจอของกลางเพียบ
รายงานข่าวจากจังหวัดพิจิตร แจ้งว่า คืนที่ผ่านมา (8 มิ.ย.55) ร.ต.ต.เกษม ปาวินทร์ รองสารวัตรปราบปราม สภ.เมืองพิจิตร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ. เมืองพิจิตร และตำรวจสายตรวจผลัดดึก ได้รับแจ้งเหตุมีวัยรุ่นจำนวนมากยกพวกทะเลาะวิวาทที่บริเวณถนนบุษบาใกล้กับวิทยาลัยสารพัดช่าง จึงยกกำลังจะไประงับเหตุแต่วัยรุ่นต่างขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีเหมือนผึ้งแตกรัง จึงวิทยุสกัดและให้จำลักษณะของรถจักรยานยนต์
ปรากฏว่า ตำรวจได้ออกไล่ขับแก๊งวัยรุ่นเมื่อถึงหอนาฬิกา ถนนบึงสีไฟเห็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค สีน้ำเงินขาว หมายเลขทะเบียน กคง.581 พิจิตร ผู้ขับขี่มีพิรุธจึงจะเข้าทำการตรวจค้น แต่ผู้ขับขี่ได้เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์แล้วหนีไปที่บริเวณคันคลองชลประทาน ถนนสายคลองคะเชนทร์โพธิ์ประทับช้าง หมู่ 3 ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งจุดดังกล่าวมี ส.ต.ท.สราวุธ จันทร์ชุ่ม ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ผลัดดึก สภ.เมืองพิจิตร อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ จึงขับขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจไล่จับผู้ต้องสงสัย
เมื่อถึงจุดที่เกิดเหตุคนร้ายเห็นตำรวจจวนตัว จึงทิ้งรถวิ่งเข้าป่าละเมาะกลางทุ่งนา แต่ ส.ต.ท.สราวุธ พยายามวิ่งไล่ขับเข้าประชิดตัวคนร้ายจึงใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงสวนออกมา 4 นัด กระสุนเข้าที่หลังเท้าซ้ายของ ส.ต.ท.สราวุธ 1 นัด จน ส.ต.ท.สราวุธ ล้มลง แล้วได้วิทยุแจ้งขอกำลังเสริม ที่ต่อมาได้นำตัว ส.ต.ท.สราวุธ ส่งโรงพยาบาลพิจิตร
จากนั้นร.ต.ต.เกษม ปาวินทร์ รองสารวัตรปราบปราม สภ.เมืองพิจิตร จึงได้วิทยุเรียกกำลังตำรวจและหน่วยกู้ภัยเกือบ 70 คน นำไฟฉายพร้อมอาวุธเดินหน้ากระดานลงป่าละเมาะตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนจนถึงตี 3 ของคืนเกิดเหตุ เดินหาอยู่ 3 รอบจนเกือบจะถอดใจคิดว่า คนร้ายหนีรอดไปได้แล้ว แต่จู่ๆคนร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าละเมาะบริเวณสระบัว ก็ทำเสียงดังขึ้นตำรวจจึงมองเห็นและเข้าจับกุม
จากการตรวจค้นและสอบสวนทราบว่า มือปืนที่ยิงตำรวจรายนี้ คือ นายนเรศ ดำมินเสก อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 2 ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งมีแฟ้มประวัติยาวเหยียดทั้งเรื่องอาชญากรรมและยาเสพติดจากการตรวจค้นภายในรถจักรยานยนต์ และกระเป๋าสะพายที่ตัวผู้ต้องหาพบยาบ้าบรรจุใส่ถุงพลาสติกจำนวน 5 ถุง ๆละ 200 เม็ด รวม 1,000 เม็ด ยาไอซ์ 1.9. กรัม ลูกปืนขนาด 9 มม. จำนวน 23 นัด เงินสด 13,00 0บาท จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนปืนคนร้ายได้ขว้างทิ้งในที่เกิดเหตุ ขณะนี้ยังหาไม่พบตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีในหลายข้อหาต่อไป
