ศูนย์ข่าวศรีราชา ตร.กบินทร์บุรี รวบคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงตำรวจ บาดเจ็บสาหัส 2 ราย หลังเตรียมตัวจะหลบหนีไปประเทศลาว
วันนี้ (19 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 จ.ชลบุรี พล.ต.ท.ดร.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อัครชัย พงษ์ศิริ ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ได้ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุม นายนิกร หรือเบิร์ด เรียงดี คนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกตรวจสืบสวนปราบปรามเกี่ยวกับยาเสพติด สถานีตำรวจภูธรกบินทร์บุรี ตรวจมาถึงบริเวณบ้านทุ่งพัฒนา หมู่ที่ 6 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด โดยชุดแรก มี ร.ต.อ.ประสพชัย คำปิติ และ ด.ต.สุชาติ เปียสันเทียะ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ เข้าไปในซอยที่เกิดเหตุ ในจังหวะนั้น สังเกตเห็นชายวัยกลางคน ทราบชื่อภายหลัง คือนายนิกร เรียงดี สวมเสื้อลายพรางคล้ายทหาร ไม่สวมเสื้อ สะพายกระเป๋าเป้สีดำ กำลังเดินสวนออกมา และที่เอวด้านหน้ามีลักษณะคล้ายด้ามปืนเหน็บอยู่
ตำรวจทั้ง 2 นาย ได้จอดรถจักรยานยนต์เพื่อทำการตรวจค้น โดยเข้าประชิดตัวที่กำลังจะเดินเข้าบ้านพร้อมคว้าอาวุธปืนขนาด .38 ของนายนิกรไว้ได้ ส่วนนายนิกรได้ชัดอาวุธปืนอีกกระบอกที่เหน็บไว้ที่เอวด้านหลังออกมายิงใส่ ร.ต.อ.ประสพชัย และ ด.ต.สุชาติ ได้รับบาดเจ็บ ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 1 ชุด มาประสบเหตุ จึงต้องรีบนำเจาหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 ส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรี เพื่อช่วยชีวิตเป็นการด่วน
ส่วนตัวคนร้ายได้เดินเข้าไปในบ้านพร้อมคว้าปืนลูกซอง ออกมายิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเบิกทางหลบหนี และได้หยิบอาวุธปืนประจำตัวของ ร.ต.อ.ประสพชัย หนีหายไปในความมืด
หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น พล.ต.ต.อัครชัย พงษ์ศิริ ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ได้สั่งการให้ตำรวจทุกสถานี ออกติดตามจับคนร้ายรายนี้ให้ได้ เนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย โดยขัดขืนและต่อสู้จนเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ต่อมาทราบว่า คนร้ายหลบหนีไปอยู่ที่จังหวัดหนองบัวลำภู จึงประสานตำรวจในจังหวัดดังกล่าว จนทราบแน่ชัดว่าไปหลบอยู่ที่บ้านเลขที่ 80/1 หมู่ 14 บ้านวังหมื่น คุ้มทานตะวัน ต.หนองบัวลำภู อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู จึงเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ด้านนายนิกร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจจริง เนื่องจากในวันที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คน ได้จู่โจมเข้ามาด้านหลังตนโดยไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นตำรวจ ตนจึงต่อสู้ขัดขืน และใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวยิงใส่ไป ประมาณ 5 นัด จากนั้นไปนำอาวุธปืนลูกซองออกมายิงใส่เจ้าหน้าที่อีกเพื่อเปิดทางหนี จนมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว
การจับกุมในครั้งนี้ สามารถยึดอาวุธปืนได้ทั้งสิ้น 4 กระบอก เป็นปืนสั้น 3 กระบอก และปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
