xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอหารือ ตร.ภาค 5 รับมอบคดี “ซูโดฯ” เล็งออกหมายจับ ขรก.มีเอี่ยวเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รองอธิบดีดีเอสไอนำทีมหารือตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมรับสำนวนคดี “ซูโดอีเฟดรีน” ไปดำเนินการต่อ เผยรับไป 6 จาก 13 คดีที่ภาค 5 รับผิดชอบ เล็งเตรียมออกหมายจับข้าราชการเพิ่มอีก 2 หลังพบมีส่วนเกี่ยวข้อง ด้านคดีคลินิกหมอวงศ์สั่งซื้อซูโดฯ 4 แสนเม็ดออกหมายจับลูกชายหมอ-ผู้แทนยาแล้ว หลังพบร่วมกันปลอมเอกสารสั่งซื้อ

วันนี้ (6 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ นำโดยนายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ เพื่อร่วมประชุมหารือเรื่องการส่งมอบสำนวนการสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับยาที่ผสมสารซูโดอีเฟดรีน ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ตำรวจภูธรภาค 5 โดยมี พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และคณะเข้าร่วม

การหารือดังกล่าวมีขึ้นเพื่อให้ตำรวจภูธรภาค 5 ได้สรุปข้อมูลการดำเนินคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีนในความรับผิดชอบ ซึ่งมีทั้งสิ้น 13 คดี ก่อนจะส่งมอบสำนวนการสอบสวนให้ดีเอสไอรับไปดำเนินการต่อ รวมทั้งเพื่อหารือถึงการบูรณาการการทำงานร่วมกันของทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว

จากคดีทั้ง 13 คดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 5 นั้น ในวันนี้ได้มีการส่งมอบสำนวนการสอบสวนให้ดีเอสไอรวม 6 คดี ได้แก่ คดีการทิ้งซองยาที่มีสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนในพื้นที่ อ.สันกำแพง 1 คดี คดีการลักลอบปลอมแปลงเอกสารเพื่อสั่งซื้อยาที่มีสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน และจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตที่โรงพยาบาลเซ็นทรัล เชียงใหม่ เมมโมเรียล จ.เชียงใหม่ 3 คดี

คดีการสั่งซื้อยาที่มีสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนและทำบัญชีเบิกจ่ายเท็จของโรงพยายาลศิริเวช จ.ลำพูน 1 คดี และคดีแอบอ้างชื่อโรงพยาบาลแม็คคอร์มิค จ.เชียงใหม่ เพื่อสั่งซื้อยาที่มีสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน 1 คดี ส่วนคดีที่เหลือนั้นบางส่วนได้ดำเนินการส่งฟ้องผู้ต้องหาไปแล้ว ขณะที่อีกส่วนหนึ่งทางดีเอสไอได้รับมอบเป็นคดีพิเศษเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงการหารือร่วมกันระหว่างตำรวจภูธรภาค 5 กับดีเอสไอว่า ได้พูดคุยกันถึงแนวทางความร่วมมือกันของทั้งสองหน่วยงานเพื่อให้เกิดความชัดเจน เนื่องจากหากแยกกันทำงานอาจทำให้เกิดความสับสนได้ อีกทั้งทางดีเอสไอยังต้องอาศัยความร่วมมือจากตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ในการติดตามหาข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็น

ขณะเดียวกัน ทางตำรวจภูธรภาค 5 ก็ได้สอบถามถึงขั้นตอนการปฏิบัติงานในแง่กฎหมาย หลังจากที่คดีเหล่านี้จะส่งต่อไปอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ

นายสรรเสริญกล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบคดีที่เกี่ยวข้องกับยาที่มีสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 5 แล้ว ดีเอสไอได้ทำการจัดแบ่งคดีทั้งหมดออกเป็น 2 ส่วนเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ ส่วนที่ 1 ได้แก่คดีที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลของรัฐ และในพื้นที่ อ.สันกำแพง ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกรณีที่เกิดขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และส่วนที่ 2 ซึ่งเป็นคดีที่เกิดในโรงพยาบาลเอกชนและร้านขายยา ในลักษณะของการปลอมแปลงเอกสารหรืออ้างสิทธิในการสั่งซื้อตามกฎหมาย เพื่อสั่งซื้อยาจำนวนมากก่อนนำไปจำหน่ายต่อ

รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเปิดเผยด้วยว่า จากการสืบสวนของดีเอสไอ ได้เตรียมที่จะออกหมายจับผู้ต้องสงสัยในคดีที่เกี่ยวข้องกับยาที่มีสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนเพิ่มอีก 2 ราย โดยทั้ง 2 รายเป็นข้าราชการที่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ส่วนคดีอื่นๆ นั้นก็จะเร่งดำเนินการในส่วนของการรวบรวมข้อมูลสำคัญต่างๆ เพื่อให้คดีมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับการติดตามขยายผลเพื่อหาปลายทางของยาที่มีสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนว่ามีใครหรือกลุ่มใดที่เป็นผู้ทำหน้าที่รวบรวมยา รวมทั้งมีการส่งต่อไปที่ใดและเพื่อใช้ประโยชน์อย่างไร

ภายหลังการหารือดังกล่าวเสร็จสิ้นลง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสุขุมชาติ กาญจนกามล และนางมยุรี หลวงเครื่อง ผู้ต้องหาในคดีปลอมแปลงเอกสารของคลินิกเวชกรรมหมอวงศ์เพื่อสั่งซื้อยาที่มีสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน มาพูดคุยกับคณะของดีเอสไอและตำรวจภูธรภาค 5 หลังจากที่ทั้งสองถูกออกหมายจับในคดีดังกล่าว หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนทราบว่าทั้งคู่เป็นผู้ดำเนินการสั่งซื้อยาที่มีสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนจำนวน 400,000 เม็ดในนามคลินิกเวชกรรมหมอวงศ์ ซึ่งมีนายแพทย์วงศ์สว่าง กาญจนกามล บิดาของนายสุขุมชาติเป็นเจ้าของ

เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า นายสุขุมชาติได้ร่วมมือกับนางมยุรีโดยปลอมคำสั่งซื้อในนามคลินิกเวชกรรมหมอวงศ์ ก่อนจะให้นางมยุรีกรอกตัวเลขจำนวนยาที่จะสั่งซื้อแล้วส่งใบสั่งซื้อไปยังบริษัทยา เมื่อได้ยามาแล้วนางมยุรีจะเป็นผู้มารับยาที่สั่งซื้อเพื่อนำไปขายต่อแก่บุคคลที่สาม โดยนายสุขุมชาติจะเซ็นเช็คสั่งจ่ายค่ายาในนามบริษัทที่ตนเองและบิดามีอำนาจสั่งจ่ายไปก่อน ก่อนจะรับค่ายาคืนจากนางมยุรีโดยได้กำไรจากส่วนต่างของราคายา ซึ่งในเบื้องต้นนายสุขุมชาติได้มอบตัวและเตรียมที่จะสู้คดี ส่วนนางมยุรียังคงให้การปฏิเสธ


นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับมอบสำนวนการสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับยาที่มีสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน จาก พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5
นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พูดคุยกับนายสุขุมชาติ กาญจนกามล (เสื้อสีขาว) และนางมยุรี หลวงเครื่อง (ชุดสีขาว สวมแว่นตา) ผู้ต้องหาคดีปลอมแปลงเอกสารสั่งซื้อยาที่มีสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนจำนวน 4 แสนเม็ด ของคลีนิกเวชกรรมหมอวงศ์
กำลังโหลดความคิดเห็น