xs
xsm
sm
md
lg

“เอสซีจี เปเปอร์” รุกอุตสาหกรรมกระดาษ ชูยูคาฯ 4 พันธุ์ใหม่หนุนปลูกพืชเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจุมพฏ ตัณมณี กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามฟอเรสทรี จำกัด ในเครือเอสซีจี เปเปอร์
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “เอสซีจี เปเปอร์” รุกอุตสาหกรรมผลิตกระดาษ มุ่งสร้างรายได้ให้เกษตรกรปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ ชูผลวิจัยต้นพันธุ์ยูคาลิปตัสใหม่ 4 สายพันธุ์ โอ่ทนต่อโรคและแมลง ทั้งให้ผลผลิตเพิ่มเหมาะกับสภาพดินที่แตกต่างในแต่ละภูมิภาค ทั้งพัฒนาแนวทางให้การช่วยเหลือในลักษณะครบวงจร หวังสร้างความมั่นใจและสร้างรายได้ให้เกษตรกรทั่วประเทศ

นายจุมพฏ ตัณมณี กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามฟอเรสทรี จำกัด ในเครือเอสซีจี เปเปอร์ กล่าวว่า เอสซีจี เปเปอร์ได้ดำเนินนโยบายเพื่อนแท้เกษตรกรไทยมาตั้งแต่ปี 2551 เชิญชวนให้เกษตรกรปลูกยูคาลิปตัสเป็นพืชเศรษฐกิจ อีกทางเลือกเพื่อสร้างรายได้ และมุ่งใช้ประโยชน์สูงสุดจากที่ดินเกษตร ตั้งแต่ที่ดินตามคัน จนถึงพื้นที่แล้งและพื้นที่ปริมาณฝนตกมาก

ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนหลายปีที่ผ่านมาทำให้เกิดมหันตภัยน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ภัยแล้งช่วงต้นปี 55 ขณะที่วงจรชีวิตแมลงศัตรูพืชมีวิวัฒนาการยากต่อการป้องกันและกำจัด โดยเฉพาะแตนฝอยปม ที่ทำลายผลผลิตยูคาลิปตัส กระทบต่อรายได้เกษตรกรไทยมาก เอสซีจี เปเปอร์จึงได้วิจัยและพัฒนาพันธุ์ยูคาลิปตัสลูกผสม 4 สายพันธุ์ใหม่

ใช้นวัตกรรมแนวคิดด้านความหลากหลายของสายพันธุ์ เพื่อสร้างความมั่นคงให้ผลผลิต ทั้งหมดผ่านการทดลองผสมพันธุ์เป็นเวลากว่า 3 ปีและทดลองปลูกอีก 5 ปี ประกอบด้วยสายพันธุ์ H8, H10, H12 และ H14 และเป็นสายพันธุ์ที่ใช้ส่งเสริมปลูกในปี 2555 นี้

ต้นพันธุ์ยูคาลิปตัส H8 จะมีจุดเด่นทนโรคแมลง เหมาะกับพื้นที่มีปริมาณฝนมาก H10 ทนโรคแมลง เหมาะกับพื้นที่ดินร่วนหยาบ น้ำฝนปกติ H12 ทนโรคแมลง เหมาะกับพื้นที่ดินด่างอ่อนๆ และอยู่ในช่วงปริมาณน้ำฝนแล้งถึงปกติ และ H14 ทนโรคแมลง เหมาะกับพื้นที่ดินลุ่ม และอยู่ในช่วงปริมาณน้ำฝนแล้งถึงปกติ

เอสซีจี เปเปอร์ยังได้พัฒนาการบริการให้เข้าถึงเกษตรกรมากขึ้น ผ่านการช่วยเหลือในด้านต่างๆ ในลักษณะครบวงจร ทั้งการจัดการแปลงปลูกเฉพาะพื้นที่ให้มีความเหมาะสมแก่เกษตรกร และการสร้างเครือข่ายศูนย์กระจายกล้ายูคาลิปตัสครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งการจัดการแปลงปลูกทำให้ผลผลิตเพิ่ม โดยการควบคุมต้นทุน ลดความสูญเสียและความเสี่ยงต่อโรคแมลงต่างๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้เกษตรกรเพิ่มขึ้น

นายจุมพฏกล่าวต่อว่า รูปแบบการจัดการเอสซีจีจะช่วยเหลือวิเคราะห์พื้นที่ปลูกยูคาฯ อย่างเจาะลึก คัดเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะกับพื้นที่ พร้อมแนะวิธีปลูกอย่างมีประสิทธิภาพ ให้คำแนะนำในทุกปัญหา และช่วยคำนวณค่าใช้จ่ายและผลตอบแทนให้เกษตรกรเพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุน ตลอดจนรับซื้อไม้กลับอย่างเหมาะสม

จุดแข็งของเอสซีจี เปเปอร์ คือมีทีมและศูนย์กระจายกล้าพันธุ์ที่กระจายในพื้นที่หลักมากถึง 50 สาขาทั่วประเทศ สามารถส่งยูคาฯ สายพันธุ์ใหม่ให้แก่เกษตรกรได้อย่างทั่วถึง โดยเกษตรกรสามารถติดต่อศูนย์อีสานได้ที่ 0-4343-3355 ศูนย์ตะวันตกและเหนือ 0-3461-5040 หรือผ่านช่องทางเว็บไซต์ http://paper.scg.co.th
ต้นพันธุ์ยูคาลิปตัส 4 สายพันธุ์ ที่เอสซีจี เปเปอร์สนับสนุนให้เกษตรกรทั่วประเทศ ปลูกสร้างรายได้


กำลังโหลดความคิดเห็น