ศูนย์ข่าวศรีราชา-กลุ่มเครือข่ายเพื่อนตะวันออก ผนึกกำลังแนวร่วม 36 เครือข่ายเดินหน้าผลักดันวาระเปลี่ยนตะวันออก มุ่งสู่เป้าหมายรักษาความมั่นคงทางอาหาร ฐานทรัพยากร เสริมสร้างคุณค่าของชุมชนท้องถิ่น
ที่โรงแรมลองบีช การ์เด้น โฮเต็ล แอนด์ สปา พัทยา จังหวัดชลุบรี ได้มีการประชุมวาระเปลี่ยนตะวันออก ครั้งที่ 1 โดยมีกลุ่มเครือข่ายเพื่อนตะวันออก เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก โครงการลุ่มน้ำแห่งการพอเพียง เครือข่ายชุมชนรอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน กลุ่มอนุรักษ์อ่าวนาเกลือ กลุ่มอนุรักษ์อ่าวบางละมุง และเครือข่ายประชาชนคัดค้านการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง รวม 36 องค์กร เข้าร่วม
ทั้งนี้ เพื่อนำเสนอความคิดเห็น และร่วมกันกำหนดเป้าหมาย และทิศทางการทำงานร่วมกันของเครื่องข่าย ภายใต้แผนพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกของประชาชน คัดค้านการเพิ่มภาคอุตสาหกรรม และฟื้นฟูระบบนิเวศของชุมชน โดยร่วมกันสรุปฉันทมติของเครือข่ายในการกำหนดแผนพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งประกอบด้วย แผนพัฒนาภาคตะวันออกต้องเป็นแผนที่เสริมสร้างคุณค่าของท้องถิ่น โดยชุมชนกำหนดเอง หยุดอุตสาหกรรม มุ่งฟื้นฟูระบบนิเวศ 3 น้ำ (ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ) ภาคตะวันออก สร้างกลไกการทำงานของเครือข่ายองค์กรประชาชนร่วมกัน รวมถึงสนับสนุน และเสริมสร้างการเมืองที่เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง
ในขณะที่เรื่องที่ถูกนำมาเป็นประเด็นในการเสนอแนะเพิ่มเติมในส่วนของเป้าหมายการทำงานของเครือข่ายมากที่สุด เป็นเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัย ความมั่นคงทางอาหาร และการรักษาฐานทรัพยากรที่ดีเอาไว้ ด้วยการหยุดภาวะคุกคามทุกรูปแบบ และมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาศักยภาพของคน ทั้งในแง่ของการให้ข้อมูลความรู้ และการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนเครือข่าย
ในที่ประชุมพูดคุยดัวยว่า แม้ปัจจุบัน ประชาชนจะมีโอกาสมากขึ้นในการต่อสู้กับโครงการพัฒนาต่างๆ ที่ส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อม ภูมินิเวศ แต่ทุนนิยมก็มักจะมีโอกาสมากกว่าประชาชนเสมอ ประชาชนต้องกำหนดบทบาทว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ที่สำคัญ ประชาชนต้องกำหนดยุทธศาสตร์การต่อสู้บนพื้นฐานของความถูกต้องในการแก้ไขปัญหาด้วยการสร้างพื้นที่ที่เป็นพื้นที่การจัดการโดยตัวชาวบ้านขึ้นมาให้ได้
และให้ชาวบ้านเข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดแผนพัฒนาภาคตะวันออกกับรัฐ และสร้างกติกา ร่วมคิด ตัดสินใจทำ ติดตามประเมินผลไปด้วยกัน สร้างพลังการจัดการข้อมูล และการสื่อสารสู่สาธารณะ เร่งสร้างความคิด จิตสำนึกของคนรุ่นใหม่ให้เข้าใจความทุกข์ยากที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เปลี่ยนความคิดคนจากคิดพึ่งคนอื่นให้หันกลับมาพึ่งตนเองมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้ความสมดุลทางทรัพยากรธรรมชาติต่อไปอีกด้วย