บุรีรัมย์ - ตัวแทนชาวบ้าน อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ร่วม 20 คนบุกศาลากลางจังหวัดฯ ร้องผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ รวมทั้ง กอ.รมน. และ ทสจ.บุรีรัมย์ ให้ตรวจสอบเอาผิดและปลดผู้ใหญ่บ้าน ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลใช้เครื่องจักรกลบุกรุกป่าสงวนฯ ดงใหญ่ และเรียกเก็บค่าคุ้มครองสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ขณะทางจังหวัดฯ รับเรื่องสั่งอำเภอตรวจสอบข้อเท็จจริง ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย คาดแล้วเสร็จภายใน 15 วัน
วันนี้ (23 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้านบ้านโคกเพชร หมู่ 2 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ร่วม 20 คนเดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมกับนำเอกสารหลักฐาน ภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จังหวัดบุรีรัมย์ และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อร้องเรียนถึงพฤติกรรมของ นายชมพง สะบุตรดี ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกเพชร หมู่ 2 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใช้รถไถและเครื่องจักรกล ลักลอบเข้าไปไถบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่มากกว่า 100 ไร่
นอกจากนั้น ยังได้วางตัวเป็นผู้มีอิทธิพลเรียกเก็บเงินค่าคุ้มครองชาวบ้านที่มีรถไถคันละ 3,300 บาทต่อเดือน มีการเรียกเก็บเงินรายได้จากรถไถของชาวบ้านอีก 10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งมีพฤติกรรมบริหารจัดการเงินโครงการเอสเอ็มแอล และค่าใช่จ่ายต่างๆ ในหมู่บ้านไม่โปร่งใส
กรณีดังกล่าวชาวบ้านได้ยื่นหนังสือต่อทางอำเภอโนนดินแดงเข้าไปตรวจสอบเอาผิดแต่เรื่องก็เงียบหายไป จึงได้เดินทางเข้ามาร้องจังหวัดและหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อเข้าไปตรวจสอบดำเนินคดี พร้อมปลดผู้ใหญ่บ้านให้ออกจากตำแหน่ง เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำผิดเสียเองถือเป็นการกระทำผิดร้ายแรง
นายหวาน อาสน์ธานี ตัวแทนชาวบ้านที่มายื่นหนังสือ ระบุว่า ผู้ใหญ่บ้านมีพฤติกรรมดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านมานานร่วมปีแล้ว มีพฤติกรรมเข้าไปบุกทำลายป่าไม้
ชาวบ้านจึงได้รวมตัวลงชื่อร้องเรียนต่อทางจังหวัดให้ช่วยเหลือเข้าไปตรวจสอบเอาผิดดำเนินคดี เนื่องจากกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พร้อมให้ปลด นายชมพง ผู้ใหญ่บ้านออกจากตำแหน่งดังกล่าวด้วย
ต่อมา นายกนก ศรีวิชัยนันทร์ หัวหน้ากลุ่มงานปกครอง ที่ทำการปกครองจังหวัดบุรีรัมย์ ตัวแทนจังหวัดบุรีรัมย์มารับเรื่อง พร้อมรับปากจะเร่งส่งเรื่องรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ทราบเพื่อจะได้ให้ทางอำเภอโนนดินแดง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ชาวบ้านร้องเรียนมา พร้อมยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 15 วัน