xs
xsm
sm
md
lg

เมียกำนัน-ผญบ.โร่ฟ้อง กกต.-แฉเด็กคน พท.แจกนาฬิกา-ปากกาซื้อเสียงเลือกนายก อบจ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวิเชียร เธียรชัยพงษ์ ผู้สมัครนายก อบจ.พิจิตร หมายเลข 1 (คนซ้ายสุด) ที่สวมเสื้อคลุมที่มีสัญลักษณ์พรรคเพื่อไทย ลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.พิจิตร
พิจิตร - ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.พิจิตรโค้งสุดท้ายเดือด ผู้ใหญ่บ้านเขตอำเภอสากเหล็กหอบ “นาฬิกา-ปากกา” มอบให้ กกต.อ้างคนของผู้สมัครหมายเลข 1 ผู้ท้าชิงเก้าอี้กับแชมป์เก่ามอบให้ก่อนวันลงคะแนนเลือกตั้ง 27 พฤษภาคมนี้ พร้อมร้องคัดค้าน ขณะที่เจ้าตัวโร่ขึ้นโรงพักขอลงบันทึกไม่รู้ไม่เห็นการแจกนาฬิกาแลกคะแนนเสียง

นายสุวรรณ ประทุมวรรณ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ที่ 15 ตำบลสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร และเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 15 บ้านดงเย็น ตำบลสากเหล็ก อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร ได้นำนาฬิกาจำนวน 5 เรือน และปากกาจำนวน 2 ด้าม มอบแก่ กกต.พิจิตร โดยมีนายวิรุธ ปัญญาอินทร์ หัวหน้างานจัดการเลือกตั้ง เป็นผู้รับเรื่องและส่งมอบให้ พ.อ.อ.ยุทธนา ปั้นบุญ พนง.สืบสวน กกต.พิจิตร เป็นผู้สอบข้อเท็จจริง

ผู้ใหญ่สุวรรณให้การว่า ได้สิ่งของมาจากนายจรัญ อมรศักดิ์ไพศาล และลูกน้องอีก 2 คน ที่เป็นหัวคะแนนของนายวิเชียร เธียรชัยพงษ์ ผู้สมัครนายก อบจ.พิจิตร หมายเลข 1 ที่จะมีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 27 พฤษภาคม 55 ซึ่งสวมเสื้อพรรคเพื่อไทยลงสมัคร โดยกลุ่มหัวคะแนนดังกล่าวนำสิ่งของมาให้เพื่อให้ตนไปลงคะแนนให้เบอร์ 1

โดยมีพฤติการณ์คือ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 55 เวลาประมาณ 17.30 น. ขณะนั้นตนอยู่ในบริเวณบ้านกลุ่มบุคคลที่เป็นหัวคะแนนดังกล่าวได้ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง (จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้) โดยมีคนขับรถ 1 คน หวีผมแสกกลาง อายุประมาณ 50 ปีเศษ และมีคนยกของ 1 คน เป็นชายอายุประมาณ 25-30 ปี และในรถมีนายจรัญ อมรศักดิ์ไพศาล ที่ตนรู้จักดี เพราะว่าเป็นประธานชมรมชาวสากเหล็ก และประธานสภาวัฒนธรรม นั่งอยู่คู่กับคนขับรถ และเปิดกระจกคุยกับตนให้รับสิ่งของ

โดยกล่าวว่า “เอานาฬิกามาให้ 5 เรือน ปากกา 2 ด้าม ให้ผู้ใหญ่สุวรรณ 1 เรือน และขอให้เอานาฬิกาไปให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่มี 2 คน คนละ 1 เรือน และให้เอาไปให้ ส.อบต.ที่มี 2 คน อีกคนละ 1 เรือน และขอฝากให้เลือกนายวิเชียร เธียรพงษ์ ผู้สมัครนายก อบจ.พิจิตร เบอร์ 1 ด้วย”

จากนั้นเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 ตนซึ่งเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งด้วยได้ไปประชุมที่อำเภอสากเหล็ก และได้เจอนายวิชัย อุ่นอุบล ซึ่งเป็น ผช.ผญบ. จึงได้มอบนาฬิกาให้ 1 เรือน และให้นายทอง เสรภูมิ ซึ่งเป็น ส.อบต.ที่มีบ้านอยู่ใกล้กัน โดยมอบให้ 1 เรือนด้วยเช่นกัน ส่วนนาฬิกาอีก 2 เรือนที่จะต้องนำไปให้ ส.อบต., ผช.ผญบ. รวมอีก 2 คนนั้นยังไม่ได้นำไปมอบให้

จากนั้นคิดได้ว่าการรับสิ่งของเพื่อจูงใจให้ไปลงคะแนนก็เท่ากับเป็นการขายเสียง อีกทั้งตนเองเป็นถึงผู้ใหญ่บ้านที่รับนโยบายจากนายอำเภอให้รณรงค์ไม่ขายสิทธิไม่ขายเสียง และรู้ว่าการกระทำดังกล่าวจะผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้ง จึงขอแสดงเจตนาบริสุทธิ์ด้วยการนำนาฬิกาและปากกามามอบให้ กกต.พิจิตร อีกทั้งนายวิชัย และนายทองก็มีความคิดเช่นเดียวกัน จึงได้ฝากสิ่งของดังกล่าวมาให้ กกต.พิจิตร และพร้อมที่จะมาให้ปากคำ รวมถึงขอร้องคัดค้านการเลือกตั้งนายก อบจ.พิจิตร และให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้แจกสิ่งของเพื่อซื้อสิทธิซื้อเสียงดังกล่าว

เช่นเดียวกันกับ นางเฉลียว ปั้นโหมด อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ที่ 5 ตำบลคลองทราย อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นภรรยาของนายสายันห์ ปั้นโหมด กำนันตำบลคลองทราย อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร ก็ได้นำนาฬิกาแขวนจำนวน 7 เรือนไปมอบแก่ กกต.พิจิตรว่า ก็ได้รับนาฬิกาแขวนจากหัวคะแนนเดียวกับกลุ่มแรก โดยให้เอานาฬิกาไปแจก อบต., สารวัตรกำนัน, แพทย์ประจำตำบล แต่นางเฉลียวกลัวความผิดจึงได้เอาไปคืน กกต.และยืนยันให้เอาผิดผู้ที่ซื้อสิทธิการเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ กกต.พิจิตรก็ได้รับเรื่องเอาไว้และจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป พร้อมกับอธิบายว่า ถ้าพบนายวิเชียร เธียรพงษ์ ผู้สมัครนายก อบจ.พิจิตร เบอร์ 1 มีพฤติกรรมที่มีส่วนร่วมหรือให้จ้างวานให้หัวคะแนนไปทำเช่นนั้นจริง ก็อาจต้องรับโทษตามมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่มีทั้งโทษทางอาญาและโทษที่อาจต้องถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองอีกด้วย

ล่าสุด พ.ต.ท.เนวิน กาหลง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองพิจิตร ได้เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (23 พ.ค.) นายวิเชียร เธียรชัยพงษ์ ผู้สมัครนายก อบจ.พิจิตร เบอร์ 1 ได้เดินทางมาที่โรงพักและได้เข้าแจ้งความโดยขอให้สิบเวรลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นตนเองไม่ได้สั่งการหรือเกี่ยวข้องแต่อย่างใด และยังคงยืนยันว่าใช้วิธีหาเสียงแบบโปร่งใสบริสุทธิ์ โดยชูนโยบายที่จะพัฒนาเมืองพิจิตร ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องซื้อเสียง เพราะมีคะแนนนิยมมากพอที่จะชนะการเลือกตั้งได้ โดยไม่ต้องทำผิดกฎหมายดังกล่าว





กำลังโหลดความคิดเห็น