ส.อบจ.พิษณุโลกนำ “พญาควาย” โชว์ พบแสนรู้ เดิน หมอบ คลานได้หมด

พิษณุโลก- ทึ่ง “เจ้าราชัน” ควายแสนรู้ เดิน-คลาน-หมอบเข้าหาคน ส.จ.เมืองพิษณุโลกระบุจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเก็บเซลล์ใบหูทำโคลนนิ่งจนสำเร็จได้ลูกควายตัวแรก

วันนี้ (22 พ.ค.) ที่ฟาร์มกักกันสัตว์ บริษัท อมาณัติ จำกัด หมู่ 5 ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้นำพญาควายปลักไทยแสนรู้ของนายอนุชา น้อยวงศ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเลี้ยงไว้ออกมาโชว์ความสามารถ ซึ่งพญาควายตัวนี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาเก็บเซลล์ใบหูเพื่อทำโคลนนิ่งจนสำเร็จได้ลูกควายตัวแรกอยู่ที่ กรุงเทพฯ เมื่อปี 2554

ทั้งนี้ พญาควายปลักไทยตัวนี้มีชื่อว่า “ราชัน” ปัจจุบันอายุประมาณ 13 ปี น้ำหนักประมาณ 1,000 กก. หรือ 1 ตัน ร่างกายแข็งแรง ที่สำคัญค่อนข้างเชื่อง เมื่อเจ้าของสั่งให้ไหว้ก็จะคุกเข่าทำท่าคำนับ และเมื่อให้คลานก็จะคลาน รวมทั้งสามารถสั่งให้นอนได้ด้วย

นายอนุชากล่าวว่า เจ้าราชันเป็นควายที่แสนรู้ และหาได้ยาก ในประเทศไทยจะเหลือพญาควายปลักไทยน้อยมาก แทบสูญพันธุ์แล้ว ลักษณะที่สำคัญคือ หน้าดอก หางดอก ข้อเท้าด่าง ปากคาบแก้ว และเท้าขุนนาง จากลักษณะดังกล่าวถือว่าหายากมากในเมืองไทย รวมถึงต่างประเทศ

ด้วยคาดว่าในประเทศไทยจะมีแค่ที่ฟาร์มฯ เท่านั้น ทางฟาร์มฯ จึงพยายามอนุรักษ์พันธุ์ดังกล่าวไว้ โดยขยายพันธุ์ตามปกติ นอกเหนือจากที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาเก็บเซลล์ใบหูทำโคลนนิ่งได้ลูกควายแล้วเมื่อปี 2554

“ปัจจุบันเจ้าราชันมีลูกแล้วประมาณ 10 ตัว แต่ที่ถูกต้องตามลักษณะมีไม่กี่ตัว”

นายอนุชาบอกอีกว่า ที่ฟาร์มฯ ยังเลี้ยงควายแปลกๆ ประเภทอื่นที่มีลักษณะเด่น เช่น ควายแคระ ที่สูงประมาณ 80-100 เซนติเมตร, ควายเผือก ที่หายาก, ควายไม่มีเขา และวัวแคระ แต่ละประเภท เตรียมขยายพันธุ์และอนุรักษ์ไว้ที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษาขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก

นายสัญชัย ฐิติปุญญา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ทาง อบจ.พิษณุโลกเตรียมจัดทำศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ขึ้นภายในบริเวณสวนสาธารณะบึงราชนก ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ของเกษตรกร โดยได้กันพื้นที่ประมาณ 30 ไร่สำหรับการอนุรักษ์ควายไทยไว้ด้วย เพราะวันนี้เครื่องจักรกลเข้ามาทำให้ควายเริ่มหายไปจำนวนมาก