กาญจนบุรี - จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมรับคณะ ครม.สัญจร 19-20 พ.ค.นี้ เผย “ยิ่งลักษณ์” เปลี่ยนแผนบินโฉบบ้านพุน้ำร้อน ส่วนม็อบกาญจน์พร้อมรวมตัว เน้นเรียกร้องที่ดินทำกิน และพืชเกษตรราคาตกต่ำ ด้านผู้ว่าฯ เปิดบ้านพักเลี้ยงอาหารรสเด็ดขึ้นชื่อของจังหวัด
เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเตรียมสถานที่และการต้อนรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะประชุมสัญจร ครม.สัญจรที่ จ.กาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 19-20 พ.ค.นี้ว่า ทุกภาคส่วนได้มีการเตรียมงานกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะภายในบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ริมถนนหลักเมือง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันจัดสถานที่จัดเลี้ยงอาหารกลางวัน ในวันแรกของการประชุม ครม.สัญจร คือ วันเสาร์ที่ 19 พ.ค.นี้ เพื่อทำหน้าที่เจ้าภาพที่ดีในการต้อนรับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี รวมทั้งสื่อมวลชน รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง โดยได้ติดตั้งเต็นท์ และจัดเตรียมซุ้มอาหาร ตัดแต่งต้นไม้อย่างสวยงาม
นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวถึงความพร้อมรับ ครม.สัญจรว่า การจัดเตรียมสถานที่ในครั้งนี้ได้จัดแบ่งสถานที่ไว้เป็น 3 ส่วน นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี สื่อมวลชน และผู้เกี่ยวข้อง ใช้พื้นที่ตั้งแต่บริเวณหน้าจวนด้านข้าง และด้านบน ส่วนการจัดเตรียมอาหารนั้น ได้เตรียมสุดยอดของดีของแต่ละจังหวัด เป็นเมนูไว้ต้อนรับนายกรัฐมนตรี และคณะ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมต้อนรับการประชุม ครม.ในครั้งนี้
ส่วนการเตรียมสถานที่การประชุม ครม.นั้นพร้อมแล้ว 100% รวมทั้งการรักษาความปลอดภัย ทางตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการประสานกับ บช.ภ. 7 ร่วมสนธิกำลังกับ ตชด.และทหาร จาก จทบ.กาญจนบุรี และกองพลทหารราบที่ 9 เพื่อร่วมในการปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวต่อว่า ส่วนการเปลี่ยนกำหนดการเดินทางไปบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรีนั้น ทางนายกรัฐมนตรี ได้เปลี่ยนกำหนดการเดินทางไปทางอากาศ ส่วนการบรรยายสรุปจะนำเรื่องโครงการรองรับทวายโปรเจกต์ที่ ม.ราชภัฏกาญจนบุรี ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีการประชุมร่วม กรอ.ที่นั่น ก็จะเป็นการนำเสนอข้อมูลที่เกิดประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน
ด้านสายข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ที่ได้มีการประสานงานกับกลุ่มประชาชนที่น่าจะเข้ามาข้อร้องเรียนต่อ ครม.สัญจรในการเดินทางมาประชุมที่ จ.กาญจนบุรีในครั้งนี้เปิดเเผยว่า จะมีประชาชนที่ต้องการยื่นข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ประกอบด้วย 1.กลุ่มเกษตรกรชาวนาผู้ประกอบการโรงสีในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี และใกล้เคียงซึ่งคาดว่าจะยื่นข้อเรียกร้องถึงปัญหานโยบายการรับจำนำข้าว
2.กลุ่มผู้ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี และใกล้เคียง ซึ่งคาดว่าจะมีข้อร้องเรียนในเรื่องราคาผลผลิตตกต่ำ
3.กลุ่มประชาชนผู้ประสบปัญหาการบุกรุกที่ดิน ซึ่งคาดว่าจะมีข้อร้องเรียนปัญหาการบุกรุกที่ดินทำกินในเขตอุทยานเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ และอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.ทองผาภูมิ
4.กลุ่มผู้ปลูกสับปะรดในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เรื่องราคาสับปะรดตกต่ำ
5.กลุ่มสหกรณ์โคนมในพื้นที่ อ.ท่าม่วง เกี่ยวกับราคาน้ำนมดิบตกต่ำ
6.กลุ่มประชาชนบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งอาจจะมีข้อเรียกร้องถึงปัญหาเรื่องข้อปฏิบัติ และการแก้ไขปัญหาของเจ้าหน้าที่ภาครัฐในการดำเนินการเรื่องปัญหาที่ดิน ส่วนพื้นที่ จ.นครปฐม น่าจะมีการร้องเรียนเรื่องชดเชยผลกระทบจากน้ำท่วมในปี พ.ศ.2554
เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเตรียมสถานที่และการต้อนรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะประชุมสัญจร ครม.สัญจรที่ จ.กาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 19-20 พ.ค.นี้ว่า ทุกภาคส่วนได้มีการเตรียมงานกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะภายในบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ริมถนนหลักเมือง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันจัดสถานที่จัดเลี้ยงอาหารกลางวัน ในวันแรกของการประชุม ครม.สัญจร คือ วันเสาร์ที่ 19 พ.ค.นี้ เพื่อทำหน้าที่เจ้าภาพที่ดีในการต้อนรับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี รวมทั้งสื่อมวลชน รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง โดยได้ติดตั้งเต็นท์ และจัดเตรียมซุ้มอาหาร ตัดแต่งต้นไม้อย่างสวยงาม
นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวถึงความพร้อมรับ ครม.สัญจรว่า การจัดเตรียมสถานที่ในครั้งนี้ได้จัดแบ่งสถานที่ไว้เป็น 3 ส่วน นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี สื่อมวลชน และผู้เกี่ยวข้อง ใช้พื้นที่ตั้งแต่บริเวณหน้าจวนด้านข้าง และด้านบน ส่วนการจัดเตรียมอาหารนั้น ได้เตรียมสุดยอดของดีของแต่ละจังหวัด เป็นเมนูไว้ต้อนรับนายกรัฐมนตรี และคณะ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมต้อนรับการประชุม ครม.ในครั้งนี้
ส่วนการเตรียมสถานที่การประชุม ครม.นั้นพร้อมแล้ว 100% รวมทั้งการรักษาความปลอดภัย ทางตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการประสานกับ บช.ภ. 7 ร่วมสนธิกำลังกับ ตชด.และทหาร จาก จทบ.กาญจนบุรี และกองพลทหารราบที่ 9 เพื่อร่วมในการปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวต่อว่า ส่วนการเปลี่ยนกำหนดการเดินทางไปบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรีนั้น ทางนายกรัฐมนตรี ได้เปลี่ยนกำหนดการเดินทางไปทางอากาศ ส่วนการบรรยายสรุปจะนำเรื่องโครงการรองรับทวายโปรเจกต์ที่ ม.ราชภัฏกาญจนบุรี ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีการประชุมร่วม กรอ.ที่นั่น ก็จะเป็นการนำเสนอข้อมูลที่เกิดประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน
ด้านสายข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ที่ได้มีการประสานงานกับกลุ่มประชาชนที่น่าจะเข้ามาข้อร้องเรียนต่อ ครม.สัญจรในการเดินทางมาประชุมที่ จ.กาญจนบุรีในครั้งนี้เปิดเเผยว่า จะมีประชาชนที่ต้องการยื่นข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ประกอบด้วย 1.กลุ่มเกษตรกรชาวนาผู้ประกอบการโรงสีในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี และใกล้เคียงซึ่งคาดว่าจะยื่นข้อเรียกร้องถึงปัญหานโยบายการรับจำนำข้าว
2.กลุ่มผู้ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี และใกล้เคียง ซึ่งคาดว่าจะมีข้อร้องเรียนในเรื่องราคาผลผลิตตกต่ำ
3.กลุ่มประชาชนผู้ประสบปัญหาการบุกรุกที่ดิน ซึ่งคาดว่าจะมีข้อร้องเรียนปัญหาการบุกรุกที่ดินทำกินในเขตอุทยานเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ และอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.ทองผาภูมิ
4.กลุ่มผู้ปลูกสับปะรดในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เรื่องราคาสับปะรดตกต่ำ
5.กลุ่มสหกรณ์โคนมในพื้นที่ อ.ท่าม่วง เกี่ยวกับราคาน้ำนมดิบตกต่ำ
6.กลุ่มประชาชนบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งอาจจะมีข้อเรียกร้องถึงปัญหาเรื่องข้อปฏิบัติ และการแก้ไขปัญหาของเจ้าหน้าที่ภาครัฐในการดำเนินการเรื่องปัญหาที่ดิน ส่วนพื้นที่ จ.นครปฐม น่าจะมีการร้องเรียนเรื่องชดเชยผลกระทบจากน้ำท่วมในปี พ.ศ.2554
