มหาสารคาม - อานิสงส์พายุฝนที่ซัดกระหน่ำหลายรอบในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เกษตรกรในมหาสารคามทำนาได้เร็วขึ้น ทยอยไถเตรียมดินเพื่อเริ่มทำนากันแล้ว เกษตรฯ เตือนให้เลื่อนไถหว่านออกไปก่อนหวั่นประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง
ว่าที่ ร.ต.จักรภัทร ผ่องโอภาส เกษตรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝน หลายพื้นที่เริ่มมีฝนตกลงมา ซึ่งการทำนาในช่วงต้นฤดูอาจเสี่ยงต่อการเกิดฝนทิ้งช่วง ต้นข้าวอาจได้รับความเสียหายได้ จึงได้กำชับให้เกษตรอำเภอและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เร่งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเลื่อนระยะเวลาการทำนาไปก่อน
หากเกษตรกรเริ่มทำนาหรือหว่านข้าวในช่วงนี้ มีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากฝนทิ้งช่วงซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมิถุนายนไปถึงเดือนกรกฎาคมของทุกปี หากต้นข้าวเสียหายจากภัยแล้งเกษตรกรอาจจะต้องตกกล้าหรือหว่านข้าวในรอบที่สอง ปัญหาที่ตามมาคือ เกษตรกรจะขาดแคลนเมล็ดข้าวพันธุ์ดีไว้ทำนาและทำให้เพิ่มต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์
โดยเฉพาะค่าแรงทำนาเพิ่มขึ้นอีกเป็น 2 เท่า ซึ่งมีค่าจ้างสูงถึงวันละ 250-300 บาทต่อคน
ขณะที่หลายพื้นที่ยังไม่มีฝนตกและยังไม่มีน้ำขังในแปลงนา แต่ชาวนาหลายพื้นที่ได้เริ่มไถเตรียมดินและเริ่มลงมือทำนา โดยเฉพาะเกษตรกรในเขตพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ทั้ง 9 ตำบลของอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่สำคัญของจังหวัด ซึ่งเกษตรกรได้หว่านข้าวไปรวมพื้นที่แล้วกว่าร้อยละ 60 ของพื้นที่ หรือประมาณ 60,000 กว่าไร่
ทั้งนี้ การหว่านข้าวรอฝนของเกษตรกรในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้นับเป็นภูมิปัญญาของเกษตรกรในพื้นที่แห่งนี้ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ซึ่งการหว่านข้าวแห้งจะได้ผลดีและมีวัชพืชขึ้นรบกวนน้อยกว่าการหว่านข้าวขณะดินเปียกชื้น เมื่อข้าวเริ่มงอกและมีฝนตกข้าวที่หว่านจะขึ้นปกคลุมวัชพืชได้เป็นอย่างดี