ชาวกรุงเก่าริมแม่น้ำป่าสักผวาตลิ่งทรุดบ้านพังลงแม่น้ำ

พระนครศรีอยุธยา - ชาวบ้านกรุงเก่า ริมแม่น้ำป่าสัก ในพื้นที่อำเภอท่าเรือ ผวาตลิ่งทรุดบ้านพังลงแม่น้ำ เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (17 พ.ค.) นายธีระชัย ทศรส นายอำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายภูวดล สุกาทร นายก อบต.โพธิ์เอน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางไปตรวจสอบบ้านเรือนริมแม่น้ำป่าสักช่วงระหว่างหมู่ที่ 3-หมู่ที่ 6 ต.โพธิ์เอน หลังจากรับร้องเรียนจากประชาชนว่า ตลิ่งริมแม่น้ำมีการทรุดตัวพังทลายลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้มีบ้านเรือนประชาชนหลายหลังได้รับผลกระทบ และมีแนวโน้มที่บ้านจะพังลงไปในแม่น้ำ

ทั้งนี้ พบว่าบริเวณริมแม่น้ำป่าสักระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 3 เมตร โดยพบ มีการพังทลายลงไปของดินบริเวณตลิ่งลงไปในแม่น้ำป่าสักเป็นระยะทางยาวกว่า 300 เมตร และลึกเข้าไปประมาณ 10 กว่าเมตร จนถึงบ้านเลขที่ 74 ม.3 ต.โพธิ์เอน ของนางแผ้ว มีรัตนไกร อายุ 74 ปี ซึ่งเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ ทำให้ห้องน้ำพังทลายเสียหาย และมีแนวโน้มจะถึงครัว

นอกจากนี้ มีบ้านเลขที่ 53 ในหมู่บ้าน และตำบลเดียวกันของ นางสมนึก สุขสกุล อายุ 54 ปี บ้านใกล้กัน บ้านชั้นเดียวเป็นบ้านที่ก่อด้วยปูน ทำให้บันไดหลังบ้านพังเสียหายถึงตัวอาคาร เห็นเสาลอยขึ้นมา โดยทั้งหลังมีรอยร้าว ซึ่งบ้านหลังนี้มีเด็กเล็กอาศัยจำนวน 13 คนเป็นลูกหลาน ซึ่งถ้าไม่รีบดำเนินการแก้ไขอาจเกิดพังเสียหายจะทำให้เป็นอันตรายต่อเด็กๆ ได้ นอกจากนี้ บ้านข้างเคียงอีก 7 ครัวเรือน เป็นชุมชนที่เช่าบริเวณหลังวัดบางม่วงอยู่อาศัย ก็ได้รับผลกระทบ

นางแผ้ว เปิดเผยว่า ตั้งแต่หลังน้ำท่วมแล้วน้ำเริ่มแห้ง ทำให้ดินเริ่มพังทลายลงเรื่อยๆ ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการที่อากาศร้อน และน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งตอนนี้เวลานอนกลางคืนก็จะนอนไม่ค่อยหลับ เพราะกลัวบ้านจะพังมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ทำให้เกิดความเครียดมากในตอนนี้

ด้านนายธีระชัย ทศรส นายอำเภอท่าเรือ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทาง อบต.ตั้งงบประมาณแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเป็นการด่วนก่อน โดยทำเสาเข็มกันดินพังเพื่อป้องกันบ้านเรือน ซึ่งอาจพังเมื่อไหร่ก็ได้ อาจจะทำให้เจ้าของบ้าน หรือเด็กเล็กที่อาศัยเกิดได้รับบาดเจ็บได้ และจะให้ทางหน่วยงานระดับสูงมาช่วยทำเขื่อนถาวรต่อไป