พระนครศรีอยุธยา - ชาวบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล พระนครศรีอยุธยา ผวาหนักหลังตลิ่งริมเจ้าพระยา พังยาวกว่า 1 กม.ลึกเข้ามากว่า 10 เมตร และความสูงเป็นหน้าผาเกือบ 5 เมตร หวั่นบ้านเรือนพังลงแม่น้ำ ชี้ ที่ดินริมตลิ่งพังมาจาก 2 สาเหตุ คือ การลดและเพิ่มของระดับน้ำแม่นำเจ้าพระยาแบบขึ้นๆ ลงๆ อย่างรวดเร็ว และการเดินเรือขนส่งสินค้า จราจรเรือบรรทุกทรายขึ้นล่องหนาแน่นตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (26 มี.ค.) ชาวบ้านหมู่ 1 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวนมากต้องหวาดผวากับตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่พังลงทุกวันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่หลังน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 จนถึงปัจจุบัน 6 เดือนแล้ว ที่ดินริมตลิ่งพังลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดินพังหายลงไปในแม่น้ำลึกเข้ามาในที่ดินของชาวบ้านกว่า 5-10 เมตรแล้ว และทำให้ตลิ่งจากเดิมที่มีความลาดเอียงไม่เกิน 45 องศา กลายเป็นหน้าผาสูงชัน ริมน้ำมีความตั้งชัน 90 องศา และมีความสูงจากพื้นน้ำที่ลดระดับลงมากกับแผ่นดินเกือบ 5 เมตร
โดยสภาพการพังทลายของตลิ่งเฉพาะที่หมู่ 1 ยาวเกือบ 1 กิโลเมตร เช่น ท่าเรือข้ามฟากของชุมชน โดยล่าสุดพบบ้านเรือนเดือดร้อนเตรียมถล่มลงไปในแม่น้ำกว่า 30 หลัง หากไม่มีการแก้ไขโดยด่วน อย่างไรก็ตาม พบว่า มีบ้านหลายหลังเสาบ้านติดจุดที่ดินตลิ่งพังแล้ว ขณะที่ชาวบ้าน เชื่อว่า การพังของที่ดินริมตลิ่งมาจาก 2 สาเหตุ คือ การลดและเพิ่มของระดับน้ำแม่นำเจ้าพระยาแบบขึ้นๆ ลงๆ อย่างรวดเร็ว สลับกันไปตลอดทั้งปี และอีกสาเหตุ คือ การเดินเรือขนส่งสินค้า เรือบรรทุกทราย แบบหนาแน่นในแม่น้ำตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับพื้นที่ ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล เคยประสบปัญหาตลิ่งพังและบ้านพังลงแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อต้นปี 2555 ที่ผ่านมา ในพื้นที่หมู่ 4 หมู่ 8 และหมู่ 9 มาแล้วเช่นกัน โดยพื้นที่หมู่ 1 แห่งนี้พบปัญหาหนัก และมีระยะการพังที่ยาวต่อเนื่อง 1 กิโลเมตร และมีภาพของต้นไม้ริมน้ำที่ดินพังลงแม่น้ำ และต้นไม้ต้องไปยืนต้นตายโผล่มาแต่ยอดในสภาพพ้นน้ำ ทั้งต้นมะพร้าว และต้นมะกอก
นางบุญชอบ อ่อนสุวรรณ อายุ 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.1 กล่าวว่า เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นดินริมตลิ่งถล่มลงมามาก ที่ดินริมแม่น้ำหายไปหมดแล้ว และการพังนั้นมีอย่างต่อเนื่องทุกวัน ยิ่งน้ำลดลงมาก การเดินเรือก็มาก ดินริมตลิ่งก็พังลงเพิ่มมากขึ้น ชาวบ้านก็เดือดร้อน เพราะหน้าบ้านเป็นแม่น้ำ ด้านหลังชุมชนก็เป็นบ่อทราย ไม่รู้จะรื้อย้ายบ้านหนีไปไหนแล้ว ช่วงที่น้ำท่วมก็ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก และท่วมทุกปี นับจากปี 2549-2554 ท่วมทุกปีต่อเนื่องโดยท่วมสูง 3 เมตร ปีที่แล้วท่วม 5 เดือน เดือดร้อนมาก พอน้ำแห้งตลิ่งมาพังต่อเนื่องอีก จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยแก้ไข เช่น ทำแนวกั้นกันตลิ่งพัง หรือทำเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง
นายบุญชู แจ้งมาก อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.1 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล กล่าวว่า เดิมบ้านของครอบครัวตนเองอยู่ริมน้ำ แต่มีการรื้อย้ายไปแล้ว และปัจจุบันที่ดินเกือบ 2 งาน ที่เคยอยู่ติดริมแม่น้ำ ปัจจุบันไม่เหลือแม้แต่ตารางวาเดียว เพราะกลายเป็นแม่น้ำไปแล้ว ช่วงหลังน้ำลดเมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา การพังทลายของดินริมตลิ่งสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น ขณะที่น้ำขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ก็จะเป็นเหตุผลในการทำให้ตลิ่งพัง และการเดินเรือบรรทุกสินค้าก็สร้างความเดือดร้อน และเป็นการกระตุ้นเร่งให้ตลิ่งพังเพิ่มขึ้น โดยล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเรือบรรทุกทรายก็แล่นมากระแทกตลิ่งของชาวบ้าน จนแพท่าเรือของชุมชนพังเสียหายมาแล้ว
