แม่ฮ่องสอน - กรรมการ TBC ฝ่ายพม่าจี้ไทยกลางวงประชุมให้ยุบศูนย์พักพิงฯ ทิ้ง อ้างฝ่ายต่อต้านพม่าให้ลูก-เมียอยู่สบาย เข้าบัญชีรับการช่วยเหลือจาก NGOs แต่ใช้ศูนย์ฯ ปฏิบัติการต้านรัฐบาลพม่า พร้อมเรียกร้องให้เลิกใช้กะเหรี่ยงคอยาวโชว์นักท่องเที่ยวต่างประเทศแลกเก็บค่าผ่านประตู และส่งกลับพม่าต่อไป
วันนี้ (17 พ.ค.) พ.อ.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ ผู้บังคับหน่วย ฉก.ร. 17 ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นฝ่ายไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อม พ.อ.คชาชาต บุญดี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้จัดประชุมคณะกรรมการชายแดนท้องถิ่นไทย-เมียนมาร์ ครั้งที่ 19 ณ ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลตำบลแม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยได้เชิญคณะกรรมการฝ่ายเมียนมาร์ นำโดย พ.ท.เลนอ่อง ผู้บังคับกองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 430 ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นฝ่ายเมียนมาร์ จังหวัดบอละแคะ รัฐคะยา สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ พร้อมคณะกรรมการเข้าร่วมประชุมฯ
โดยการหารือกันในที่ประชุมเน้นเรื่องการแลกเปลี่ยนข่าวสาร การประสานงาน และการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ เพื่อนำไปสู่การสร้างความร่วมมือในทุกด้าน เช่น ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเพสติด ปัญหาแรงงานต่างด้าว และการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้หารือในเรื่องการตั้งหน่วยภาคทหารบกตะวันออกกลางของเมียนมาร์ ซึ่งมีพื้นที่ติดกับไทยด้านอำเภอเมือง-อำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ว่า จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น TBC ระหว่างไทยกับเมียนมาร์ในพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ และสอบถามเกี่ยวกับแนวโน้ม และความเป็นไปได้ในการที่จะยกระดับช่องทางห้วยต้นนุ่น อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เป็นจุดผ่านแดนถาวร พร้อมขอความร่วมมือประเทศเมียนมาร์ได้ประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนราษฎรที่จะลักลอบหลบหนีเข้าเมืองประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาได้มีราษฎรจากประเทศเมียนมาร์ลักลอบเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและถูกเจ้าหน้าที่ทางการไทยจับกุม สอบถามพบว่าถูกหลอกลวงจากขบวนการให้เข้ามารับจ้างทำงานในประเทศไทย ทำให้ต้องสูญเสียเงินจำนวนมาก
ขณะที่ฝ่ายเมียนมาร์ได้นำข้อหารือต่อที่ประชุมว่า ขอให้ฝ่ายไทยยุบศูนย์พักพิงฯ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ โดยทางพม่าอ้างว่ากลุ่มก่อการร้ายที่ต่อต้านรัฐบาลเมียนมาร์ ได้เอาครอบครัวมาอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงฯ ต่างๆ และเอาชื่อใส่ไว้ในระบบขอรับการช่วยเหลือจาก NGOs มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย แล้วอาศัยอยู่ในพื้นที่พักพิงฯ ในประเทศไทย ทำการวางแผนมุ่งทำลายความสัมพันธ์ของสองประเทศ โดยแต่งกายเลียนแบบทหารไทย แล้วเข้ามาก่อกวนทหารเมียนมาร์ และขอให้ฝ่ายไทยหยุดนำชาวเผ่าปะต่อง (กะเหรี่ยงคอยาว) เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าชมแลกค่าผ่านประตู และส่งชาวเผ่าปะต่องกลับคืนให้เมียนมาร์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ข้อหารือทั้งหมดยังไม่มีข้อสรุปที่ผูกมัดใดๆ แต่ละฝ่ายทำเพียงรับข้อหารือแต่ละเรื่องไว้พิจารณาเท่านั้น
วันนี้ (17 พ.ค.) พ.อ.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ ผู้บังคับหน่วย ฉก.ร. 17 ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นฝ่ายไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อม พ.อ.คชาชาต บุญดี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้จัดประชุมคณะกรรมการชายแดนท้องถิ่นไทย-เมียนมาร์ ครั้งที่ 19 ณ ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลตำบลแม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยได้เชิญคณะกรรมการฝ่ายเมียนมาร์ นำโดย พ.ท.เลนอ่อง ผู้บังคับกองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 430 ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นฝ่ายเมียนมาร์ จังหวัดบอละแคะ รัฐคะยา สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ พร้อมคณะกรรมการเข้าร่วมประชุมฯ
โดยการหารือกันในที่ประชุมเน้นเรื่องการแลกเปลี่ยนข่าวสาร การประสานงาน และการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ เพื่อนำไปสู่การสร้างความร่วมมือในทุกด้าน เช่น ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเพสติด ปัญหาแรงงานต่างด้าว และการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้หารือในเรื่องการตั้งหน่วยภาคทหารบกตะวันออกกลางของเมียนมาร์ ซึ่งมีพื้นที่ติดกับไทยด้านอำเภอเมือง-อำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ว่า จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น TBC ระหว่างไทยกับเมียนมาร์ในพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ และสอบถามเกี่ยวกับแนวโน้ม และความเป็นไปได้ในการที่จะยกระดับช่องทางห้วยต้นนุ่น อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เป็นจุดผ่านแดนถาวร พร้อมขอความร่วมมือประเทศเมียนมาร์ได้ประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนราษฎรที่จะลักลอบหลบหนีเข้าเมืองประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาได้มีราษฎรจากประเทศเมียนมาร์ลักลอบเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและถูกเจ้าหน้าที่ทางการไทยจับกุม สอบถามพบว่าถูกหลอกลวงจากขบวนการให้เข้ามารับจ้างทำงานในประเทศไทย ทำให้ต้องสูญเสียเงินจำนวนมาก
ขณะที่ฝ่ายเมียนมาร์ได้นำข้อหารือต่อที่ประชุมว่า ขอให้ฝ่ายไทยยุบศูนย์พักพิงฯ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ โดยทางพม่าอ้างว่ากลุ่มก่อการร้ายที่ต่อต้านรัฐบาลเมียนมาร์ ได้เอาครอบครัวมาอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงฯ ต่างๆ และเอาชื่อใส่ไว้ในระบบขอรับการช่วยเหลือจาก NGOs มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย แล้วอาศัยอยู่ในพื้นที่พักพิงฯ ในประเทศไทย ทำการวางแผนมุ่งทำลายความสัมพันธ์ของสองประเทศ โดยแต่งกายเลียนแบบทหารไทย แล้วเข้ามาก่อกวนทหารเมียนมาร์ และขอให้ฝ่ายไทยหยุดนำชาวเผ่าปะต่อง (กะเหรี่ยงคอยาว) เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าชมแลกค่าผ่านประตู และส่งชาวเผ่าปะต่องกลับคืนให้เมียนมาร์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ข้อหารือทั้งหมดยังไม่มีข้อสรุปที่ผูกมัดใดๆ แต่ละฝ่ายทำเพียงรับข้อหารือแต่ละเรื่องไว้พิจารณาเท่านั้น