เชียงราย - พื้นที่อำเภอเชียงแสนเจอพายุ-ลูกเห็บถล่มซ้ำอีก พบหลังคา ศาลาวัด เสนาสนะเสียหายเป็นแถบ รวมถึงบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายอย่างหนักหลายหลัง ทั้งที่ไม่กี่สัปดาห์ก่อนเจอพายุฝนกระหน่ำ จนเกิดแผ่นดินแยกสร้างความแตกตื่นให้ชาวบ้านทั่วหน้ามาแล้ว
วันนี้ (16 พ.ค.) นายประจวบ กันธิยะ นายอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย และนายรังสรรค์ ขวัญเมืองเดิม ปลัดอาวุโส ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ และกิ่งกาชาด อ.เชียงแสน เดินทางไปสำรวจความเสียหายจากเหตุการณ์พายุ หลังจากช่วงคืนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุพายุพัดถล่มบ้านเรือนราษฎร ณ บ้านสบกก ม.7 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน
จากการสำรวจพื้นที่ร่วมกับนายนพคุณ สุวรรณ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 พบว่า ในพื้นที่หมู่ 7 มีเสาไฟฟ้าโค่นล้มใช้การไม่ได้หลายต้น และวิหารวัดสบกกเสียหาย โดยเฉพาะหลังคาที่เป็นกระเบื้องถูกพายุ-ลูกเห็บพัดจนแตกหลายจุด นอกจากนี้ ศาลาวัดยุบลงไปทั้งหลัง อาคารประดิษฐานพระพุทธรูปชั่วคราวในช่วงที่รอสร้างวิหารหลังใหม่ หลังคากระเบื้องแตกเป็นบริเวณกว้าง เสนาสนะโดยรอบ เช่น ห้องน้ำ ห้องอบสมุนไพรของชุมชนที่ตั้งภายในบริเวณวัดถูกพายุพัดต้นสักขนาดใหญ่ล้มทับได้รับความเสียหาย และมีกระเบื้องหลังคาวิหารบางส่วนได้รับความเสียหายอย่างหนัก
เบื้องต้นนายประจวบได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ทั้งกองร้อย เข้าช่วยเหลือรื้อถอนซากศาลาเพื่อดำเนินการซ่อมแซมแล้ว
ขณะเดียวกันยังพบว่า นอกจากพายุจะสร้างความเสียหายให้วัด ยังทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหายหลายหลัง เช่น บ้านของนายมี คำเมืองชื่น อายุ 74 ปี บ้านเลขที่ 26 ซึ่งอยู่หลังวัดสบกก ได้รับความเสียหายคานและกระเบื้องหลังคาถูกพายุหมุนหอบกระชากไปทั้งหมด เสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้ และเอกสารเปียกฝนได้รับความเสียหายหมด รวมทั้งมีบ้านเรือนชาวบ้านเสียหายอย่างหนักอีกจำนวน 5 หลังคาเรือน
ทางอำเภอจึงได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านแซว มอบเงินช่วยเหลือ สิ่งของอุปโภคบริโภคบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นก่อน จากนั้นทาง อบต.บ้านแซวได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหายทุกหลังคาเรือนอย่างละเอียด และรายงานทางอำเภอ รวมทั้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รับทราบเพื่อช่วยเหลือต่อไป
ทั้งนี้ ทาง ต.บ้านแซวได้รับการประกาศเป็นพื้นที่เขตภัยพิบัติ เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนได้เกิดเหตุการณ์พายุฝนถล่มจนทำให้พื้นดินชุ่มน้ำ และเกิดเหตุแผ่นดินแยกสร้างความแตกตื่นแก่ชาวบ้านมาแล้ว