กาฬสินธุ์ - ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ประกาศพื้นที่ 12 อำเภอเป็นเขตภัยพิบัติแล้ง หลังเกิดความแห้งแล้งขยายวงกว้าง ทั้งแหล่งน้ำธรรมชาติแห้งขอดอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงร้อยละ 20
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้เริ่มขยายวงกว้างครอบคลุมหลายพื้นที่ เนื่องจากฝนทิ้งช่วงยาวนาน ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้แหล่งน้ำตามธรรมชาติห้วย หนอง คลอง บึงต่างๆ แห้งขอดอย่างรวดเร็ว ขณะนี้จังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่ 12 อำเภอจาก 18 อำเภอของจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นเขตภัยพิบัติแล้ง
พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นนายอำเภอสามารถใช้เงินฉุกเฉินวงเงิน 5 แสนบาทเข้าช่วยเหลือ จังหวัดได้สั่งการให้อำเภอเร่งสำรวจพื้นที่เพื่อเปิดทางน้ำและทำการซ่อมแซมบ่อบาดาล เนื่องจากพบว่าหลายพื้นที่ที่ประสบภัยจะไม่สามารถนำน้ำใต้ดินขึ้นมาดื่มได้เนื่องจากเป็นสนิม
จากรายงานของชลประทานจังหวัดกาฬสินธุ์ คาดว่าช่วงเดือนพฤษภาคมจะเกิดปัญหาฝนทิ้งช่วง ทำให้พื้นที่นอกเขตชลประทานแห้งแล้งอย่างรุนแรง และจากการสำรวจปริมาณน้ำท่า แหล่งน้ำดิบธรรมชาติต่างๆ เหลือน้ำเพียงร้อยละ 20 ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 18 แห่งและเขื่อนลำปาวเหลือปริมาณน้ำอยู่ที่ร้อยละ 35 เท่านั้น ซึ่งหากฝนไม่ทิ้งช่วงยาวนานภัยแล้งปีนี้จะไม่กระทบมากนัก ช่วงนี้ประชาชนควรจัดเตรียมภาชนะบรรจุน้ำเพื่อสำรองน้ำจากการช่วยเหลือเอาไว้ใช้ด้วย
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้เริ่มขยายวงกว้างครอบคลุมหลายพื้นที่ เนื่องจากฝนทิ้งช่วงยาวนาน ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้แหล่งน้ำตามธรรมชาติห้วย หนอง คลอง บึงต่างๆ แห้งขอดอย่างรวดเร็ว ขณะนี้จังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่ 12 อำเภอจาก 18 อำเภอของจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นเขตภัยพิบัติแล้ง
พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นนายอำเภอสามารถใช้เงินฉุกเฉินวงเงิน 5 แสนบาทเข้าช่วยเหลือ จังหวัดได้สั่งการให้อำเภอเร่งสำรวจพื้นที่เพื่อเปิดทางน้ำและทำการซ่อมแซมบ่อบาดาล เนื่องจากพบว่าหลายพื้นที่ที่ประสบภัยจะไม่สามารถนำน้ำใต้ดินขึ้นมาดื่มได้เนื่องจากเป็นสนิม
จากรายงานของชลประทานจังหวัดกาฬสินธุ์ คาดว่าช่วงเดือนพฤษภาคมจะเกิดปัญหาฝนทิ้งช่วง ทำให้พื้นที่นอกเขตชลประทานแห้งแล้งอย่างรุนแรง และจากการสำรวจปริมาณน้ำท่า แหล่งน้ำดิบธรรมชาติต่างๆ เหลือน้ำเพียงร้อยละ 20 ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 18 แห่งและเขื่อนลำปาวเหลือปริมาณน้ำอยู่ที่ร้อยละ 35 เท่านั้น ซึ่งหากฝนไม่ทิ้งช่วงยาวนานภัยแล้งปีนี้จะไม่กระทบมากนัก ช่วงนี้ประชาชนควรจัดเตรียมภาชนะบรรจุน้ำเพื่อสำรองน้ำจากการช่วยเหลือเอาไว้ใช้ด้วย
