ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย เชื่ออีก 2 เดือนข้างหน้า ราคารับซื้อหัวมันสดของตลาดต่างประเทศจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังราคาดิ่งลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนมีนาคม และค่อยๆ กระเตื้องขึ้นหลังสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้เกษตรกรที่ยังไม่ขุดหัวมันฯ ออกขาย ลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง ขณะเดียวกัน ยังเชื่อว่าความต้องการหัวมันสดเพื่อผลิตเอทานอลที่เพิ่มขึ้นในประเทศ จะทำให้ราคามันฯ ดีขึ้นเรื่อยๆ
นายนิยม จุฬาเสรีกุล นายกสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย เผยถึงราคารับซื้อหัวมันสดในตลาดต่างประเทศขณะนี้เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากต้นปีที่ผ่านมาจนถึงเดือนมีนาคม 2555 ราคารับซื้อหัวมันสด และราคามันเส้นในตลาดต่างประเทศดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง จาก 265 เหรียญต่อเอฟโอบี เหลือเพียง 225 เหรียญต่อเอฟโอบี ทำให้ที่ผ่านมาผู้ส่งออกต้องยอมขายในราคา 220 เหรียญเพื่อเป็นการระบายสินค้า
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้ราคารับซื้อหัวมันสด และผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังในตลาดต่างประเทศลดลงในช่วงไตรมาสแรกของปี มาจากความตกใจของผู้ประกอบการท่าเทียบเรือซึ่งอยู่ทางเหนือของเซียงไฮ้ ประเทศจีน เกี่ยวกับฝุ่นละอองที่เกิดจากการขนถ่ายแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งกว่า 70% ขนถ่ายจากไทย สร้างผลกระทบต่อเครื่องมือทางการขนถ่ายสินค้า
จนทำให้ผู้ว่าการมณฑลเจียงซู ไม่ให้ขนถ่ายมันสำปะหลังจากประเทศไทย หรือให้ขนถ่ายน้อยลง ทำให้ผู้ประกอบการในประเทศจีนหยุดการรับซื้อผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังจากไทย หรือให้รับซื้อน้อยลง แต่หลังจากกระทรวงพาณิชย์ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเจรจา ก็ทำให้มีการอนุโลมด้านการขนถ่ายไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2556 และหลังจากนั้น ผู้ประกอบการไทยจะต้องปรับระบบการขนส่งเพื่อลดจำนวนฝุ่นละอองให้น้อยลง ทั้งในเรื่องการพัฒนาด้านหีบห่อ การขนถ่ายผ่านตู้ ฯลฯ
“ตั้งแต่ต้นปีมาราคารับซื้อหัวมันสด และผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังในตลาดต่างประเทศอ่อนลงเรื่อยๆ เพิ่งจะมากระเตื้องขึ้นในช่วงหลังสงกรานต์นี้ และก็คาดว่าในอีก 2 เดือนข้างหน้าราคารับซื้อหัวมันสดจะดีขึ้น ทั้งจากโครงการเปิดรับจำนำมันสำปะหลังเป็นขั้นบันไดของรัฐบาล ที่ขณะนี้สามารถรับจำนำได้แล้ว 5 ล้านตัน จากเป้าหมาย 10 ล้านตัน นอกจากนั้น ความต้องการหัวมันสดเพื่อใช้ในการผลิตเอทานอลที่เพิ่มขึ้นของประเทศ ก็น่าจะทำให้ราคาหัวมันสด และผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังดีขึ้น ซึ่งก็จะทำให้เกษตรลืมตาอ้าปากได้”
นายนิยม ยังเผยอีกว่า ในช่วงราคามันสำปะหลังตกต่ำ เกษตรกรในหลายพื้นที่เลือกที่จะยังไม่ขุดหัวมันฯ ออกขาย เพื่อรอให้ราคาดีขึ้น ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องขอให้รัฐบาลออกเงินกู้ดอกเบี้ย 0% เพื่อให้เกษตรกรมีเงินหมุนเวียนในช่วงที่ผลผลิตยังไม่ถูกนำออกสู่ตลาด ซึ่งขณะนี้ก็ทราบว่า รัฐบาลยอมปล่อยเงินกู้ในลักษณะดังกล่าวได้แล้ว และคาดว่าเมื่อถึงต้นปี ราคารับซื้อมันสำปะหลังในต่างประเทศ และในประเทศจะดียิ่งขึ้น
