มหาสารคาม - ผลกระทบจากภัยแล้ง และการเกิดพายุฤดูร้อนในจังหวัดมหาสารคาม ส่งผลให้พืชผักหลายชนิดมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นกว่าเท่าตัว เช่นผักคะน้าเดิมขายมัดละ 10 บาท ตอนนี้ปรับขึ้น 20 บาทแล้ว
ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองมหาสารคาม จากการลงพื้นที่สำรวจราคาพืชผักพบว่าผักเกือบทุกชนิดมีราคาสูงขึ้นกว่าเดิมกว่าเท่าตัว เนื่องจากแหล่งปลูกพืชผักในพื้นที่และในต่างจังหวัดที่รับส่งพืชผักให้เป็นประจำ ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ต่างได้รับผลกระทบจากสภาพความแห้งแล้งและสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงที่ผ่านมา
ประกอบกับมีพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ ทำให้แหล่งผลิตได้รับความเสียหาย ส่งผลให้พืชผักที่ออกสู่ตลาดมีปริมาณที่น้อยและมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น บรรดาพ่อค้าแม่ค้าจึงจำเป็นที่จะต้องปรับราคาการจำหน่ายพืชผักสูงขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากไม่สามารถที่จะแบกรับภาระต้นทุนราคาสินค้าได้
ส่งผลให้ร้านขายพืชผักรายย่อยบางเจ้าถึงกับต้องหยุดขายชั่วคราวเพราะทนกับราคาที่เพิ่มสูงขึ้นไม่ไหว อีกทั้งพืชผักที่ออกสู่ตลาดมีปริมาณน้อยลงกว่าครึ่ง เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้ารับสินค้ามาขายน้อยลงเพื่อเป็นการลดต้นทุนที่ต้องแบกรับ
โดยราคาถั่วฝักยาวที่จากเดิมขายกิโลกรัมละ 40-50 บาท ได้ปรับราคาเพิ่มขึ้นเป็น 100 บาท แม่ค้าต้องนำมาแบ่งขายด้วยการขายเป็นมัด มัดละ 10 บาท ส่วนพืชผักอื่นๆ เช่น กะหล่ำปลี เดิมขายกิโลกรัมละ 30 บาทก็ปรับขึ้นเป็น 70 บาท
ผักคะน้าจากที่เคยขายเป็นมัด มัดละ 10 บาทก็ปรับเพิ่มขึ้นเป็นมัดละ 20 บาท รวมถึงพืชผักกินใบชนิดอื่นๆ ที่ปรับราคาขายเพิ่มสูงขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80