ศูนย์ข่าวศรีราชา - คณะกรรมการสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดระยอง มั่นใจเหตุการณ์ถังบรรจุสารโทลูอีน บริษัทผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ภายในบริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ส จำกัด และบริษัท กรุงเทพซินธิติกส์ ในนิคมฯ มาบตาพุดระเบิด จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดในระยะสั้นเท่านั้น ยอมรับ ขณะนี้มีการยกเลิกห้องพักในแหล่งท่องเที่ยวบางแห่งแล้ว แต่ยังเชื่อมั่นว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง เพราะเป็นช่วงฤดูผลไม้ และยังมีการจัดงานเทศกาลผลไม้ในเขตตำบลตะมง ถึงวันที่ 13 พฤษภาคมนี้
นายบุญอนันต์ หมัดเชียว คณะกรรมการสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดระยอง เผยว่า เหตุถังบรรจุสารโทลูอีน บริษัทผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ภายในบริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ส จำกัด และบริษัท กรุงเทพซินธิติกส์ ในนิคมฯ มาบตาพุดที่เกิดระเบิดขึ้น และเกิดไฟลุกไหม้เมื่อเย็นวันเสาร์ (5 พ.ค.) ย่อมส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในจังหวัดอย่างแน่นอน และขณะนี้ ได้รับรายงานจากผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่ว่า มีการยกเลิกการจองห้องพักแล้ว แต่เชื่อว่าจะไม่มากนัก เพราะจุดที่เกิดปัญหาอยู่ในพื้นที่ตำบลมาบตาพุด ซึ่งอยู่ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง แต่การยกเลิกห้องพักเป็นผลด้านจิตวิทยาที่นักท่องเที่ยวเกรงกลัวเรื่องปัญหามลพิษทางอากาศ
ทั้งนี้ คาดว่าการยกเลิกโปรแกรมท่องเที่ยวในจังหวัดระยองของนักท่องเที่ยว จะเป็นไปในระยะสั้น เพราะเมื่อนักท่องเที่ยวเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจบลงแล้ว และไม่มีสารพิษตกค้างก็จะกลับเข้ามาเช่นเดิม
ประกอบกับในช่วงนี้ เข้าสู่ช่วงฤดูผลไม้ซึ่งถือเป็นจุดขายสำคัญ และหลายพื้นที่ของจังหวัดระยอง มีการจัดงานเทศกาลผลไม้ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนมากในแต่ละปี ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทย หันกลับเข้ามาในจังหวัดระยองในอีกไม่นานนี้ และขณะนี้ ในเขตตำบลตะพง อำเภอเมืองระยอง ก็มีการจัดงานเทศกาลผลไม้ไปจนถึงวันที่ 13 พฤษภาคม ก็คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาหาซื้อผลไม้มากเช่นเดิม
“ขณะนี้ได้รับรายงานแล้วว่ามีการยกเลิกห้องพัก แต่ยังไม่สามารถระบุตัวเลขได้ว่าเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ และผลกระทบไปไกลถึงจุดใดของระยองบ้าง ซึ่งเราก็ได้แต่หวังว่าผลกระทบนี้จะเป็นไปในระยะสั้น เพราะเมืองระยอง ยังมีจุดขายทางการท่องเที่ยวอีกมาก และพยายามประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันจบลงแล้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็พยายามหาทางแก้ไข และป้องกันไม่ให้เกิดอีกเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว”
นายบุญอนันต์ ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง ได้ทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์ทางการท่องเที่ยว และขอความร่วมมือโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีมากกว่าพันโรง ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ในจังหวัดให้ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งโรงงานขนาดใหญ่ที่มีมาตรฐานไม่มีปัญหาเรื่องมลพิษ และมีการจัดกิจกรรม CSR กับชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยสมาคมฯ จะยังไม่หยุดขอความร่วมมือโรงงานอื่นๆ ให้เร่งพัฒนาระบบมาตรฐานด้านความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้อยู่คู่กับชุมชน และการท่องเที่ยวของจังหวัดต่อไป
นายบุญอนันต์ หมัดเชียว คณะกรรมการสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดระยอง เผยว่า เหตุถังบรรจุสารโทลูอีน บริษัทผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ภายในบริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ส จำกัด และบริษัท กรุงเทพซินธิติกส์ ในนิคมฯ มาบตาพุดที่เกิดระเบิดขึ้น และเกิดไฟลุกไหม้เมื่อเย็นวันเสาร์ (5 พ.ค.) ย่อมส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในจังหวัดอย่างแน่นอน และขณะนี้ ได้รับรายงานจากผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่ว่า มีการยกเลิกการจองห้องพักแล้ว แต่เชื่อว่าจะไม่มากนัก เพราะจุดที่เกิดปัญหาอยู่ในพื้นที่ตำบลมาบตาพุด ซึ่งอยู่ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง แต่การยกเลิกห้องพักเป็นผลด้านจิตวิทยาที่นักท่องเที่ยวเกรงกลัวเรื่องปัญหามลพิษทางอากาศ
ทั้งนี้ คาดว่าการยกเลิกโปรแกรมท่องเที่ยวในจังหวัดระยองของนักท่องเที่ยว จะเป็นไปในระยะสั้น เพราะเมื่อนักท่องเที่ยวเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจบลงแล้ว และไม่มีสารพิษตกค้างก็จะกลับเข้ามาเช่นเดิม
ประกอบกับในช่วงนี้ เข้าสู่ช่วงฤดูผลไม้ซึ่งถือเป็นจุดขายสำคัญ และหลายพื้นที่ของจังหวัดระยอง มีการจัดงานเทศกาลผลไม้ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนมากในแต่ละปี ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทย หันกลับเข้ามาในจังหวัดระยองในอีกไม่นานนี้ และขณะนี้ ในเขตตำบลตะพง อำเภอเมืองระยอง ก็มีการจัดงานเทศกาลผลไม้ไปจนถึงวันที่ 13 พฤษภาคม ก็คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาหาซื้อผลไม้มากเช่นเดิม
“ขณะนี้ได้รับรายงานแล้วว่ามีการยกเลิกห้องพัก แต่ยังไม่สามารถระบุตัวเลขได้ว่าเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ และผลกระทบไปไกลถึงจุดใดของระยองบ้าง ซึ่งเราก็ได้แต่หวังว่าผลกระทบนี้จะเป็นไปในระยะสั้น เพราะเมืองระยอง ยังมีจุดขายทางการท่องเที่ยวอีกมาก และพยายามประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันจบลงแล้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็พยายามหาทางแก้ไข และป้องกันไม่ให้เกิดอีกเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว”
นายบุญอนันต์ ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง ได้ทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์ทางการท่องเที่ยว และขอความร่วมมือโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีมากกว่าพันโรง ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ในจังหวัดให้ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งโรงงานขนาดใหญ่ที่มีมาตรฐานไม่มีปัญหาเรื่องมลพิษ และมีการจัดกิจกรรม CSR กับชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยสมาคมฯ จะยังไม่หยุดขอความร่วมมือโรงงานอื่นๆ ให้เร่งพัฒนาระบบมาตรฐานด้านความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้อยู่คู่กับชุมชน และการท่องเที่ยวของจังหวัดต่อไป
