เชียงราย - กลุ่มน้อย-หนานเวียงป่าเป้ายังเดินหน้าต้านการก่อสร้างมัสยิดในพื้นที่ อ้างกลัวกระทบวิถีชีวิตชุมชน ส่งผลต่อความมั่นคง แถมมีการแจกใบปลิวเรียกร้องชาวไทยพุทธขับไล่ข้าราชการที่ไฟเขียวให้สร้าง ขณะที่เครือข่ายมุสลิมยันเดินหน้าทำตามกฎหมาย ทำการเจรจายังไม่เป็นผล
วันนี้ (2 พ.ค.) กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ซึ่งต่อต้านการก่อสร้างมัสยิด ศาสนาอิสลามที่ได้เข้าไปก่อสร้างมัสยิดที่บ้านโป่งน้ำร้อน ม.6 ถนนเชียงราย-เชียงใหม่ ต.แม่เจดีย์ใหม่ ต.เวียงป่าเป้า อ.เวียงป่าเป้า ได้จัดประชุมลับกันขึ้นเพื่อวางแผนทำกิจกรรมต่อต้านอีก หลังจากก่อนหน้านี้กลุ่มนี้เคยออกมาชุมนุม ณ ที่ว่าการ อ.เวียงป่าเป้า เมื่อวันที่ 24 เมษายน 55 ที่ผ่านมา ซึ่งผลการประชุมมีแนวโน้มไปในทางที่จะไม่มีการหยุดการเคลื่อนไหว แต่จะเคลื่อนไหวไปในทางเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องแทน
นายบุญนาค จอมธรรม ประธานชมรมน้อย-หนานเวียงป่าเป้า กล่าวว่า หลังการนัดตกลงเจรจากับตัวแทนผู้ก่อสร้างมัสยิด ณ ที่ว่าการ อ.เวียงป่าเป้า และการชุมนุมของชาวบ้านไม่ประสบผลสำเร็จ ทางนายอำเภอก็ได้มีการนัดหมายให้ตัวแทนชาวบ้านไปเจรจาที่ศาลากลาง จ.เชียงรายในวันที่ 30 เมษายน 55 แต่ปรากฏว่าได้มีการแจ้งยกเลิก โดยนายอำเภอระบุให้ไปประชุมกันเฉพาะตัวแทนของชาวบ้านและฝ่ายปกครอง ณ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่เจดีย์ใหม่
ผลการประชุม ทางนายอำเภอระบุให้ชาวบ้านยุติการเคลื่อนไหว และให้เอาป้ายต่อต้านตามจุดต่างๆ ออกให้หมด เพราะนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กำลังเจรจากับตัวแทนผู้นับถือศาสนาอิสลาม หรือให้ผู้ใหญ่ได้หารือเจรจากันก่อนนั่นเอง
นายบุญนาคกล่าวอีกว่า เรายังคงจะปรึกษาหารือกันเพื่อเคลื่อนไหวต่อไป เพราะผลปรากฏว่าในปัจจุบันการก่อสร้างมัสยิดไม่ได้ชะลอหรือหยุดลง ยังคงเดินหน้าก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเราจะเคลื่อนไหวในทางวิชาการ โดยทางมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายจะทำวิจัยเรื่องการแก้ไขความขัดแย้งการก่อตั้งมัสยิด โดยจะดำเนินการจนแล้วเสร็จราวสิ้นเดือนมิถุนายน 55 นี้ เพราะปัญหาใหญ่คือ กฎหมายไทย หากไม่แก้ไขอาจจะทำให้เกิดความแตกแยกกันทั่วประเทศในอนาคต ซึ่งชาวบ้านจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพราะเกรงว่าการตั้งมัสยิดในพื้นที่โดยที่ชุมชนไม่ยินยอมมาตั้งแต่ต้นจะกระทบวิถีชีวิตชาวบ้าน เกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ช่วงที่ชาวบ้าน ต.แม่เจดีย์มีการเคลื่อนไหวดังกล่าว ทางนายกมล ถมยาวิทย์ ที่ปรึกษาอาวุโส คณะกรรมการประสานงานองค์กรเอกชน เพื่อจังหวัดชายแดนใต้ (คปชต.) พร้อมด้วยตัวแทนชาวไทยมุสลิม จำนวน 8 คน ได้เดินทางเข้าพบนายอาณัติ วิทยานุกูล ปลัด จ.เชียงราย โดยมีรายงานว่าช่วงเดียวกันได้มีชาวบ้านที่ต่อต้านประมาณ 300 คน เดินทางไปประท้วง ณ ที่ว่าการ อ.เวียงป่าเป้า และดำเนินการถึงขั้นมีการแจกใบปลิวไม่ต้องการศาสนาอื่น เพราะอาจจะนำมาซึ่งความแตกแยก และก่อเกิดเป็นปัญหาทางความมั่นคง นอกจากนี้ ได้เรียกร้องให้ชาวไทยพุทธขับไล่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่สนับสนุนและเห็นชอบในการสร้างมัสยิดครั้งนี้ด้วย
นายกมลกล่าวว่า การดำเนินการก่อสร้างมัสยิดเป็นแรงศรัทธาของชาวไทยมุสลิมที่ร่วมกันลงเงินเพื่อจัดซื้อที่ดิน และทำการก่อสร้างเพื่อใช้เป็นสถานที่ทำพิธีทางศาสนาของชาวไทยมุสลิมที่อาศัยอยู่ที่ อ.เวียงป่าเป้า และเดินทางไปตามถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่ โดยได้มีการขออนุญาตตามขั้นตอนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตลอดจนเอกสารสิทธิที่ดินก็ได้มาจากการซื้อขายโดยชอบธรรม
ส่วนที่มีการคัดค้านของกลุ่มชาวไทยพุทธเราก็พยายามรับฟังเหตุผลมาโดยตลอด แต่จากที่สรุปได้ คือ การคัดค้านที่ไม่มีเหตุผลเพียงพอ พยายามชี้นำเพียงแค่ประเด็นความแตกแยกของชุมชน และตามกดดันเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการที่เห็นชอบ หรือให้การสนับสนุนการก่อสร้าง ดังนั้น พยายามเดินตามวิถีทางที่ถูกต้องที่สุดในทุกขั้นตอน และให้มั่นใจว่าไม่ต้องการสร้างความแตกแยก