กาญจนบุรี - พ่อเมืองกาญจนบุรี เอาจริง เริ่มวางมาตรการเข้มหยุดยั้งยาเพสติด เริ่มตั้งแต่ตัวผู้ว่าฯ ก่อนให้ข้าราชการทุกหน่วยงานในศาลากลางจังหวัด ตรวจปัสสาวะ ลั่นหากเจอสารเสพติดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้น
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (1 พ.ค.) นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติทุกภาคส่วนต้องร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง และต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรียังมีปัญหายาเสพติดแพร่ระบาดอยู่ เนื่องจากมีเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านจึงเป็นเส้นทางนำยาเสพติดผ่าน และยังเป็นแหล่งพักยาเสพติดด้วย ทางจังหวัดกาญจนบุรีก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ขับเคลื่อนการปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง
โดยบูรณาการร่วมกับฝ่ายตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้า หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ออกปฏิบัติการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง และในขณะนี้ ได้ดำเนินมาตรการนำร่องแก้ไขปัญหายาเสพติด คือ การดูแลปัดกวาดในบ้านของตัวเองให้ปลอดจากผู้ติดยาเสพติดเสียก่อน โดยเริ่มจากศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เป็นมาตรการที่ 1 โดยดำเนินการตรวจปัสสาวะข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างทุกหน่วยงานที่อยู่ในศาลากลางจังหวัดเป็นกลุ่มแรก การดำเนินการมี 3 ขั้นตอนคือ
ขั้นตอนที่ 1 แจกที่ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดให้แล้วนำไปตรวจเอง โดยจะไม่มีการติดตามผลการตรวจหาสารเสพติด ขั้นตอนที่ 2 จะมีชุดตรวจไปตรวจบุคลากรในศาลากลาง ถ้าพบสารเสพติด จะให้โอกาสผู้นั้นไปจัดการแก้ไขตัวเอง และขั้นตอนที่ 3 จะมีการตรวจซ้ำอีก 1 รอบ ถ้าพบสารเสพติด ผู้นั้นจะถูกนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย การดำเนินการเช่นนี้ จะทำให้ที่ทำงานเป็นสีขาว ปราศจากบุคคลติดยาเสพติด โดยเริ่มดำเนินการในส่วนราชการดังกล่าวในเดือนพฤษภาคม 2555 นี้ เริ่มตั้งแต่ห้องผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ข้าราชการเจ้าหน้าที่ไม่เว้นแม้แต่ผู้ว่าราชการจังหวัด
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีกล่าวต่อไปว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดนี้ เป็นเรื่องใหญ่ อยากให้มีผู้สมัครใจ และต้องอาศัยพี่น้องประชาชน รวมไปถึงผู้ปกครองนำลูกหลานมาร่วมกับเรา เป็นการชักจูงคนดี กลับเข้าสู่สังคม ใครอยากจะปรึกษา ขอความช่วยเหลือ ติดต่อได้ที่ศูนย์ติดตามแก้ไขปัญหายาเสพติด หรือส่งจดหมายถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อปรึกษาโดยตรงได้ ทางจังหวัดจะส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยให้คำปรึกษาและแนะนำ หวังที่จะให้ผู้หลงผิด ออกมาเพื่ออนาคตที่ดี
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (1 พ.ค.) นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติทุกภาคส่วนต้องร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง และต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรียังมีปัญหายาเสพติดแพร่ระบาดอยู่ เนื่องจากมีเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านจึงเป็นเส้นทางนำยาเสพติดผ่าน และยังเป็นแหล่งพักยาเสพติดด้วย ทางจังหวัดกาญจนบุรีก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ขับเคลื่อนการปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง
โดยบูรณาการร่วมกับฝ่ายตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้า หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ออกปฏิบัติการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง และในขณะนี้ ได้ดำเนินมาตรการนำร่องแก้ไขปัญหายาเสพติด คือ การดูแลปัดกวาดในบ้านของตัวเองให้ปลอดจากผู้ติดยาเสพติดเสียก่อน โดยเริ่มจากศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เป็นมาตรการที่ 1 โดยดำเนินการตรวจปัสสาวะข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างทุกหน่วยงานที่อยู่ในศาลากลางจังหวัดเป็นกลุ่มแรก การดำเนินการมี 3 ขั้นตอนคือ
ขั้นตอนที่ 1 แจกที่ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดให้แล้วนำไปตรวจเอง โดยจะไม่มีการติดตามผลการตรวจหาสารเสพติด ขั้นตอนที่ 2 จะมีชุดตรวจไปตรวจบุคลากรในศาลากลาง ถ้าพบสารเสพติด จะให้โอกาสผู้นั้นไปจัดการแก้ไขตัวเอง และขั้นตอนที่ 3 จะมีการตรวจซ้ำอีก 1 รอบ ถ้าพบสารเสพติด ผู้นั้นจะถูกนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย การดำเนินการเช่นนี้ จะทำให้ที่ทำงานเป็นสีขาว ปราศจากบุคคลติดยาเสพติด โดยเริ่มดำเนินการในส่วนราชการดังกล่าวในเดือนพฤษภาคม 2555 นี้ เริ่มตั้งแต่ห้องผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ข้าราชการเจ้าหน้าที่ไม่เว้นแม้แต่ผู้ว่าราชการจังหวัด
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีกล่าวต่อไปว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดนี้ เป็นเรื่องใหญ่ อยากให้มีผู้สมัครใจ และต้องอาศัยพี่น้องประชาชน รวมไปถึงผู้ปกครองนำลูกหลานมาร่วมกับเรา เป็นการชักจูงคนดี กลับเข้าสู่สังคม ใครอยากจะปรึกษา ขอความช่วยเหลือ ติดต่อได้ที่ศูนย์ติดตามแก้ไขปัญหายาเสพติด หรือส่งจดหมายถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อปรึกษาโดยตรงได้ ทางจังหวัดจะส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยให้คำปรึกษาและแนะนำ หวังที่จะให้ผู้หลงผิด ออกมาเพื่ออนาคตที่ดี