น่าน - วิทยาการจังหวัดน่านเข้าตรวจสอบหาหลักฐานเหตุเพลิงไหม้ สองผู้เฒ่าถูกไฟครอกเสียชีวิต
วันนี้ (1 พ.ค.) วิทยการจังหวัดน่าน นำโดย พ.ต.ต.หญิง วัชรพรรณ วะรินทร์ หัวหน้าพิสูจน์หลักฐาน พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และ พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร สว.สส.สภ.ปัว และ ร.ต.อ.ฉัตรชัย สุทธิแสน พนักงานสอบสวน สภ.ปัว ได้ร่วมเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านเลขที่ 145 ม.4 ต.วรนคร อ.ปัว จ.น่าน ที่ทำให้สองตายายถูกไฟครอกเสียชีวิต คือ นายทอง คำเทพ อายุ 82 ปี พิการเดินไม่ได้ และนางเทียบ คำเทพ อายุ 77 ปี
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ยกใต้ถุนสูง และมีผนังกั้นเป็นห้องอยู่ใต้ถุนบ้าน สภาพบ้านไหม้เกรียมทั้งหลัง ทรัพย์สินภายในบ้านถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด ตามรายงานพนักงานสอบสวน พบศพจำนวน 2 ศพในที่เกิดเหตุ ศพแรกพบในห้องนอน และอีกศพพบที่ห้องชั้นล่างใต้ถุนบ้าน สภาพศพถูกไฟครอกไหม้เกรียมจนไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ แต่คาดว่าศพที่พบในห้องนอนจะเป็นศพของคุณตาทอง และศพที่พบชั้นล่างคาดว่าจะเป็นศพของคุณยายเทียบ ที่อาจวิ่งหนีแต่หล่นลงไปชั้นล่างเนื่องจากพื้นบ้านไหม้ทั้งหมด
นายชาญ คำเทพ อายุ 51 ปี ลูกชาย เล่าว่า บ้านหลังเกิดเหตุมีผู้อาศัยจำนวน 4 คน คือ สองตายาย ซึ่งเป็นพ่อและแม่ ตัวเอง และนายกฤษดา คำเทพ อายุ 30 ปี หลานชาย คืนเกิดเหตุเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 30 เมษายน 55 ในบ้านมีผู้อาศัย 3 คน โดยนายกฤษดา หลานชายได้ออกไปนอกบ้านช่วงหัวค่ำ ตนเองได้นอนอยู่ในห้องนอนด้านล่างใต้ถุนบ้าน จนรู้สึกว่าร้อนมาก เมื่อลืมตาตื่นพบว่ามีแสงสว่างมาก และพบว่าไฟไหม้บ้านอย่างรวดเร็ว ตนพยายามจะเข้าไปช่วยพ่อกับแม่แต่ไม่สามารถเข้าไปในห้องนอนได้ จนเกิดเหตุสลดต้องสูญเสียทั้งพ่อและแม่ในกองเพลิง
ด้าน พ.ต.ต.หญิง วัชรพรรณ วะรินทร์ หัวหน้าพิสูจน์หลักฐาน วิทยาการจังหวัดน่าน กล่าวหลังตรวจสอบและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุแล้ว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเหตุเพลิงไหม้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า สายไฟฟ้า ปลั๊กไฟ อาจมีสภาพเก่า ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดอาจทำให้สายไฟละลาย หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น พัดลมทำงานหนักจนร้อนและไหม้จนเกิดเป็นประกายไฟลุกไหม้ได้
