ปชช.เมืองจันท์แห่ร่วมพิธีบรรจุศพกระดูกสีทองใส่โลงแก้ว

จันทบุรี - ความคืบหน้าศพกระดูกสีทอง ที่สำนักสงฆ์อำพวาวนาราม จังหวัดจันทบุรี มีศิษยานุศิษย์ และประชาชนจากทุกสารทิศทยอยเดินทางมาร่วมพิธีการบรรจุลงโลงแก้วกันอย่างคึกคัก

หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้นำเสนอความอัศจรรย์ศพที่เหลือแต่กระดูกเป็นสีทองทั้งตัว ของนายบุญส่ง น้ำมหาเจริญ อายุ 88 ปี ไปนั้น ปรากฏว่า วันนี้มีศิษยานุศิษย์ และประชาชนจากทุกสารทิศ เดินทางโดยรถยนต์ รถส่วนตัว และรถตู้มาร่วมพิธีการบรรจุลงโลงแก้ว และเข้ามากราบไหว้ และดูความอัศจรรย์ศพที่เหลือแต่กระดูกที่เป็นสีทองทั้งตัว ของนายบุญส่ง น้ำมหาเจริญ อายุ 88 ปี ที่เป็นศิษย์หลวงพ่อลี และเป็นผู้ที่สร้างสำนักสงฆ์อำพวาวนารามนี้ขึ้นมา ที่เสียชีวิตไปแล้ว 15 ปี และญาติพี่น้องหลังการนำศพขึ้นมาแห่ และเปิดโลงศพดูเมื่อ 1-2 เดือนที่ผ่านมา

โดยวันนี้ ญาติพี่น้องได้มีการนำศพที่เหลือแต่กระดูกที่เป็นสีทอง ของนายบุญส่ง น้ำมหาเจริญ ที่ยังคงใส่โลงศพเดิมสีขาวขึ้นมาเก็บรักษาไว้ อยู่บนศาลาสำนักสงฆ์อำพวาวนาราม ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี โดยได้มีการทำพิธีทางศาสนาในการสวดพระอภิธรรมศพของพระสงฆ์ไป และวันนี้ มีศิษยานุศิษย์ และประชาชนจากทุกสารทิศทยอยเดินทางมาร่วมพิธีการบรรจุโลงแก้วกันเป็นจำนวนมาก

ทางครอบครัว ศิษย์ยานุศิษย์ และประชาชนจากทุกสารทิศได้รวบรวมเงินจำนวน 130,000 บาท จัดซื้อโลงแก้วเพื่อนำมาบรรจุศพ นายบุญส่ง น้ำมหาเจริญ อายุ 88 ปี ที่เป็นศิษย์หลวงพ่อลี และเป็นผู้ที่สร้างสำนักสงฆ์อำพวาวนารามนี้ขึ้นมา เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ และประชาชนได้กราบไหว้ รวมทั้งเข้ามาดูความอัศจรรย์ศพที่เหลือแต่กระดูกที่เป็นสีทองทั้งตัวได้ทุกวัน

ในวันนี้จึงมีการทำพิธีการนำศพนายบุญส่ง น้ำมหาเจริญ มาบรรจุใส่โลงแก้วศพที่เหลือแต่กระดูกที่เป็นสีทอง โดยจะมีการตั้งโลงแก้วไว้ที่สำนักสงฆ์อำพวาวนารามแห่งนี้ต่อไป และจะไม่มีการนำไปเผาแต่อย่างใด แม้ผู้เสียชีวิตจะมีการสั่งญาติพี่น้องไว้ก่อนตายให้มีการนำศพไปเผาก็ตาม

ทั้งนี้ สาเหตุที่ญาติพี่น้องไม่ต้องการนำศพของ นายบุญส่ง น้ำมหาเจริญ ไปเผานั้น ก็เพราะต้องการให้ประชาชน ศิษยานุศิษย์ หรือผู้ที่ศรัทธาได้เข้ามากราบไหว้ และได้ชมความอัศจรรย์ที่เหลือเชื่อ และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถือเป็นความอัศจรรย์ที่น่าทึ่ง เพราะเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับศพที่เหลือแต่กระดูกโดยทั่วไปจะเห็นความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับนายบุญส่ง น้ำมหาเจริญ เดิมผู้เสียชีวิตเป็นคนใบ้ และเป็นศิษย์หลวงพ่อลี และเป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์ และสร้างสำนักสงฆ์อำพวาวนารามแห่งนี้ขึ้นมา รวมทั้งเป็นบุคคลที่หลวงพ่อลี บวชให้ หรือเรียกกันว่าผู้ทรงศีลนุ่งขาวห่มขาว เนื่องจากผู้เสียชีวิตไม่สามารถที่จะบวชเป็นพระได้ เพราะเป็นใบ้ หลังบวชเป็นผู้ทรงศีลนุ่งขาวห่มขาว ผู้เสียชีวิตก็ได้ปฏิบัติธรรมรักษาศีลมาโดยตลอด ก่อนเสียชีวิตได้สั่งเสียญาติพี่น้องไว้ว่า ให้นำศพที่ฝั่งอยู่ครบ 15 ปีขึ้นมาเผาเสียดังกล่าว