xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ประกอบการขนส่งสินค้านัดรวมตัวกดดันท่าเรือแหลมฉบัง หลังบริหารงานห่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าแหลมฉบัง ชลบุรี เตรียมรวมตัวกดดันท่าเรือแหลมฉบัง หลังบริหารห่วย สร้างความเสียหายต่อผู้ประกอบการและเศรษฐกิจของประเทศ

นายสงบ กิ่งทอง ประธานชมรมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวถึงปัญหาในการท่าเรือแหลมฉบัง ในขณะนี้ถือว่าเข้าสู่ภาวะวิกฤต เนื่องจากการทำงานของรถขนส่งสินค้า หรือรถหัวลากไม่สามารถทำงานได้ตามระยะเวลาที่กำหนด เพราะการบริหารงานของการท่าเรือแหลมฉบัง ไม่มีระบบเท่าที่ควร หรือบริหารห่วยมาก

ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการขนส่ง ได้เคยเสนอปัญหาให้ผู้บริหารการท่าเรือแหลมฉบัง แก้ไขปรับปรุงมานานหลายครั้งแล้ว แต่ทางผู้บริหารก็ไม่เคยปรับปรุง หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเลย โดยปล่อยให้ปัญหาสะสมมานานเกือบ 10 ปีแล้ว และถือว่าเข้าขั้นวิกฤตอย่างมาก จึงต้องออกมารวมตัวกันเพื่อเร่งกดดันให้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโดยด่วน เพราะหากปัญหาในครั้งนี้ไม่ดำเนินการแก้ไข ผู้ประกอบการก็จะรวมตัวไม่นำรถไปรับส่งสินค้าในท่าเรือ หรือตามนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เนื่องจากทนต่อการแบกรับภาระทีเกิดขึ้นไม่ไหวแล้ว

นายสงบ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาเกิดจากบริเวณประตูเข้า ซึ่งรถขนส่งสินค้าทุกคันจะต้องไปจ่ายเงินสดจำนวน 130 บาท บริเวณดังกล่าว นอกจากนั้น มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ บริเวรดังกล่าวด้วย ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีจุดตรวจเพียง 7 ช่องเท่านั้น แต่ปริมาณรถขนส่งที่เข้าออกมาบริเวณนั้นมีจำนวนมาก

โดยเฉพาะช่วงวันพฤหัส-ศุกร์ มีปริมาณรถมากถึงวันละ 4-5,000 คันต่อวัน ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอ จนเกิดการสะสมของรถหัวลาก ที่จะต้องใช้เวลาในท่าเรือแหลมฉบังนานถึง 4-5 ชั่วโมง ส่งผลกระทบต่อจำนวนการขนส่งสินค้า และเศรษฐกิจของประเทศ ที่ต้องเสียไปกับการเผาผลาญเชื้อเพลิงด้วย

ปัญหาที่เกิดขึ้นเลยเคยเสนอไปแล้ว คือ ควรจะต้องขยายช่องตรวจรับและตรวจเช็กเอกสารให้เพิ่มมากขึ้นกว่านี้อีกเท่าตัว คือ ประมาณ 15-20 ช่อง เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว นอกจากนั้น ควรจะต้องใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ มาใช้ในการทำงานให้มากขึ้น เพื่อเป็นการประหยัดเวลา และการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่ปัญหาต่างๆ ไม่ได้รับการแก้ไขเลย จนส่งผลกระทบระยะยาวแล้วในขณะนี้ จนเข้าขั้นวิกฤตแล้ว

ด้านนายสมพงษ์ คุ้มคง ผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าได้รับความเดือดร้อนมาก เนื่องจากจะต้องจอดรถบางคันอยู่กับบริษัทฯ เนื่องจากไม่สามารถไปรับสินค้าได้ เพราะไม่คุ้มต้นทุน เพราะต้องเสียเวลาจากเดิม 1 เที่ยวใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมง สินค้าดังกล่าวก็ถึงผู้รับแล้ว แต่ปัจจุบันต้องเสียเวลา 8-10 ชั่วโมง ในการขนส่งแต่ละเที่ยว ทำให้บริษัทขาดทุน และที่สำคัญ พนักงานขับรถที่ทางบริษัทจ้างก็เลิกไปหางานอย่างอื่นทำ เพราะเสียเวลา และไม่คุ้มต่อค่าจ้าง

ในความเป็นจริงแล้ว ท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรืออันดับ 1 ของประเทศ และติดอันดับโลกแล้ว การบริหารจัดการควรจะต้องทันสมัยกว่านี้ หรือรวดเร็วกว่านี้ ไม่ใช่ให้การขนส่งสินค้าต้องเสียเวลานานขนาดนี้ และจะไปแข่งขันกับนานาประเทศได้อย่างไร ดังนั้น ควรจะต้องรีบแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร่งด่วน

นายสมพงษ์ กล่าวว่า สิ่งแรกที่ควรเร่งดำเนินการ คือ เส้นทางการเข้าสู่การท่าเรือแหลมฉบัง ควรเปิดเส้นทางเข้าเส้นใหม่อีก 1 เส้น เพื่อให้รถขนส่งที่มาจาก ระยอง บางละมุง พัทยา เข้าได้ในทันที คือ บริเวณสะพานบางละมุง หรือตลาดทุ่งกราด เพื่อไม่ให้รถทั้งหมดมาสะสมที่บริเวณประตูใหญ่ปัจจุบัน

นอกจากนั้น รถขนส่งสินค้าที่วิ่งมาจากถนนสาย 7 ให้ตรงเข้าสู่การท่าเรือแหลมฉบังเลย โดยเปิดช่องบริการภายในท่าเรือแหลมฉบังตรงบริเวณดังกล่าว เพื่ออำนวยความสะดวกรถตรงจุดนั้นให้เข้าสู่ท่าเรือโดยเร็ว โดยไม่ใช่เปิดบริการเพียงจุดเทียวเท่านั้น เพราะปัจจุบัน การขนส่งสินค้าเข้า-ออกมาปริมาณเพิ่มสูงขึ้น แต่การบริหารจัดการยังเหมือนเดิม ปัญหาจะไม่เกิดขึ้นได้อย่างไร ดังนั้น ควรหาแนวทางเปิดให้บริการเพิ่มมากขึ้น เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ และเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต




กำลังโหลดความคิดเห็น