ตาก - ผู้ประกอบการท่าเรือริมแม่น้ำเมย ช่องทางส่งสินค้าจากชายแดนแม่สอดเข้าพม่าโวยลั่น ถูกกองกำลังบีจีเอฟพม่าเรียกเก็บเงิน 3 แสนต่อราย จนต้องเรียกประชุมกันด่วนก่อนลงมติ “ไม่จ่าย” พร้อมแจ้งฝ่ายความมั่นคง-ฝ่ายปกครองเตรียมพร้อมรับมือ ก่อนเสนอเข้าที่ประชุมใหญ่หอการค้าฯ-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อ
นายประยูร ลือชัย ประธานกลุ่มคลังชั่วคราวท่าเรือบริเวณบ้านห้วยม่วง ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2555 พันโท โมะโต่ง รองผู้บังคับการหน่วยเคลื่อนที่เร็วกองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือบีจีเอฟ ได้เชิญผู้ประกอบการท่าเรือฝั่งไทย ได้แก่คลัง 1 ท่า 16 คลัง 2 ท่า 19 คลัง 3 ท่า 17 คลัง 4 ท่า 1 และคลัง 5 ท่า 2 ไปยังค่ายทหารสำนักงานบีจีเอฟ ฝั่งพม่าตรงข้ามบ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด เพื่อแจ้งให้ทราบว่าขณะนี้ทางบีจีเอฟที่ควบคุมการเข้าออกชายแดนต้องการเรียกเก็บเงินจากผู้ประกอบการท่าเรือฝั่งไทยรายละ 300,000 บาท โดยให้เวลา 3 วัน หากไม่จ่ายจะไม่อนุญาตให้เรือไทยผ่านในการใช้ขนสินค้าไปฝั่งพม่าตามจุดที่กลุ่มตนควบคุมอยู่
นายประยูร ลือชัยเปิดเผยอีกว่า เรื่องนี้ทางผู้ประกอบการท่าเรือรู้สึกไม่สบายใจ และก็ยอมไม่ได้ถือว่าเป็นการข่มขู่รีดไถข้ามชาติ และกระทำอุกอาจไม่ถูกต้อง จึงได้หารือกัน และแจ้งตัวแทนพม่าที่มาหารือร่วมแล้วว่าผู้ประกอบการท่าเรือริมแม่น้ำเมยจะไม่จ่ายเงินให้กองกำลังบีจีเอฟของพม่า และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองทราบแล้ว และจะเสนอเข้าที่ประชุมใหญ่ทั้งหอการค้าจังหวัดตาก หน่วยงานรับผิดชอบ ผู้ประกอบการส่งสินค้า ในเร็วๆนี้เพื่อรับทราบโดยด่วน
นายสำรวย ป่าตาล ผู้ประกอบการท่าเรือคลัง 1 เปิดเผยว่า สถานการณ์ในฝั่งพม่าที่บริเวณชายแดนมีความตึงเครียดเนื่องจากกลุ่มกองกำลังต่างๆ กำลังแย่งกันเป็นใหญ่ควบคุมพื้นที่ต่างๆ มีโอกาสใช้อาวุธยิงตอบโต้กัน ส่งผลกระทบต่อฝั่งไทยและการค้าชายแดนอีกครั้ง และหากไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลหรือประสานงานฝ่ายทางการพม่าปัญหาก็จะเกิดขึ้นอีกหลายๆ ครั้ง