อุกอาจ! คนร้ายใช้อาวุธสงครามถล่มนักการเมืองกลางเมืองลำปาง

ลำปาง - คนร้ายอุกอาจใช้อาวุธสงครามยิงถล่มนักการเมืองท้องถิ่นกลางวันแสกๆ แต่เหยื่อใจเด็ดขับรถตามประกบจนถูกยิงเข้าที่ปากทะลุคอ จนพ่อต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลแทน ขณะที่คนร้ายยังลอยนวล

เมื่อเวลา 11.40 น. วันนี้ (29 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับรถยนต์ปิกอัพสตราดาแค็บ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน แล้วใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มนักการเมืองท้องถิ่นบนสะพานบ้านต้า-หมอสม ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง และหลบหนีไปทางถนนสายลำปาง-เชียงใหม่

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งวิทยุสกัดและไล่ติดตามแต่ยังไม่สามารถติดตามตัวได้ ส่วนผู้บาดเจ็บคือนายพงษ์พิทักษ์ ถาคำฟู อายุ 34 ปี ถูกยิงเข้าที่ปากทะลุคอ แพทย์โรงพยาบาลลำปางได้นำตัวเข้าห้องเอกซเรย์เพื่อทำการรักษาแล้ว

จากการสอบถามนายชัยยะ หรือชิน ถาคำฟู อายุ 60 ปี นักการเมืองท้องถิ่นและหัวคะแนนนักการเมืองลำปาง บิดาของผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและบุตรชายกำลังซ่อมรถแบ็กโฮอยู่บริเวณลานร้านครัวกำนันเก่า ใกล้เที่ยงตนจึงจะหยุดพักและกำลังเดินจะไปล้างมือ แต่ได้ยินเสียงลูกชายที่กำลังซ่อมแบ็กโฮอยู่ตะโกนบอกว่าให้ระวังและตนก็ได้ยินเสียงปืนดังรัวติดกันหลายนัดจึงกระโดดหลบเข้าที่กำบัง และเมื่อเสียงปืนสงบบุตรชายและตนจึงได้ขับรถยนต์กระบะอีซูซุ ทะเบียน กต 4091 ลป ไล่ติดตามคนร้ายโดยบุตรชายเป็นคนขับ

เมื่อไล่มาถึงสะพานบ้านต้า-หมอสม คนร้ายซึ่งมีจำนวน 4 คน นั่งด้านหน้า 2 และนั่งกระบะหลัง 2 คนได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 หันมายิงถล่มกระสุนทะลุเข้าที่หน้ากระจกหน้า 1 นัด และกระโปรงอีก 2 นัด ซึ่งกระสุนที่ทะลุกระจกได้เจาะเข้าบริเวณปากบุตรชายทันที ตนจึงให้หยุดรถและเปลี่ยนนำตัวบุตรชายมานั่งด้านข้าง ส่วนตนขับรถนำตัวบุตรชายส่งโรงพยาบาล

ส่วนสาเหตุนายชัยยะยังไม่ได้ให้ความเห็น โดยปฏิเสธว่าไม่เคยมีเรื่องกับใครแม้แต่เรื่องการเมือง เพราะการลงสมัคร ส.อบจ.ที่กำลังจะมาถึงตนเองก็จะไม่ลงสมัคร ส่วนเรื่องส่วนตัวก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าบุคคลที่คนร้ายต้องการสังหารในครั้งนี้น่าจะเป็นนายชัยยะ ส่วนประเด็นการก่อเหตุอุกฉกรรจ์ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งประเด็นเกี่ยวกับการเมือง และยังไม่ทิ้งเรื่องส่วนตัว

สำหรับนายชัยยะ ถาคำฟู อดีตเคยเป็นหัวคะแนนคนสำคัญของนักการเมืองระดับชาติในลำปาง ก่อนที่จะแยกตัวออกมาเป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงลำปาง และลงสมัครชิงเก้าอี้นายกเทศมตรีเมืองเขลางค์นคร และเป็นหัวคะแนนให้หลานชายที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา