ศูนย์ข่าวศรีราชา - ฉก.นย.182 ร่วม ฉก.นย.ตราด จับเรือบรรทุกแก๊สลักลอบนำแก๊สจากไทยส่งขายยังประเทศกัมพูชา ขณะที่ลูกเรือเผยกระทำการดังกล่าวมาแล้ว 3 ครั้ง และมีถังแก๊สถูกขนถ่ายออกนอกประเทศแล้วกว่า 2,000 ถัง เจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลจับกุมตัวการใหญ่ พร้อมส่งดำเนินคดีในกรุงเทพฯต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 03.10 น. วันนี้ (28 เม.ย.) น.อ.นพดล ฐิตวัฒนะสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ได้สั่งการให้ น.ท.ธงฉาน บุญระเทพ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด นำทหารนาวิกโยธิน พร้อมเรือยาง ออกติดตามเรือประมงชื่อนำโชค ที่เดินเรือมุ่งหน้าไปยังอำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด และกำลังจะมุ่งหน้าสู่จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา ซึ่งเมื่อพบเรือลำดังกล่าวได้ขอทำการตรวจค้น ซึ่งก็พบลูกเรือจำนวน 5 คน เป็นไต๋ก๋งและลูกเรือชาวกัมพูชา 4 คน ส่วนอีกคนเป็นลูกเรือชาวไทย
บนเรือยังพบถังแก๊สทั้งขนาด 15 กิโลกรัม และขนาด 48 กิโลกรัมกว่า 500 ถัง จึงควบคุมเรือประมงดังกล่าวไว้แต่ยังไม่สามารถชักลากเข้ามาได้ เนื่องจากน้ำทะเลลง จึงควบคุมตัวลูกเรือทั้งหมดมาสอบสวนที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 (บ้านหาดเล็ก) และทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า จะนำถังแก๊สทั้งหมดไปจำหน่ายในจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา และทำมา 3 ครั้ง โดยมีการลำเลียงถังแก๊สออกนอกประเทศกว่า 2,000 ถัง ส่วนผู้ที่เป็นเจ้าของเรือคือนาย พร้อมพงษ์ ไม่ทราบนามสกุล และนายทุนชาวจังหวัดตราด
น.อ.นพดล กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นการทำงานร่วมกันกับด่านศุลกากรคลองใหญ่ จังหวัดตราด ที่ร่วมได้ติดตามพฤติกรรมลักลอบนำแก๊สออกจำหน่ายนอกประเทศของกลุ่มผู้ต้องหามานานกว่า 2 เดือน ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาจะนำแก๊สจากจังหวัดจันทบุรี และระยอง ขนส่งทางรถยนต์เพื่อมสลงเรือประมงขนาดเล็กที่ ตำบลอ่าวใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดตราด ก่อนส่งต่อไปยังอำเภอเกาะกูด เพื่อลักลอบส่งต่อไปยังจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา
“ขบวนการดังกล่าวกระทำมานาน 1-2 ปีแล้ว และจะใช้วิธีการขออนุญาตจดทะเบียนเรือประมงขนแก๊ส จากผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เพื่อขนส่งแก๊สไปยังประเทศกัมพูชา และเมื่อถูกจับกุมก็จะวิ่งเต้นกับผู้ใหญ่ ทั้งในจังหวัดตราด และในส่วนกลางจนทำให้ไม่สามารถส่งฟ้องคดีได้ ดังนั้น การจับกุมครั้งนี้กรมศุลกากร จะชักลากเรือประมงลำดังกล่าวเข้าไปดำเนินคดีในกรุงเทพฯ พร้อมลูกเรือ เพื่อจับตัวนายทุนใหญ่มาดำเนินคดีต่อไป ซึ่งกรมศุลกากร ก็จะทำการแถลงข่าวทันทีที่เรือประมงถูกชักลากมาถึงในเย็นวันนี้”น.อ.นพดล กล่ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 03.10 น. วันนี้ (28 เม.ย.) น.อ.นพดล ฐิตวัฒนะสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ได้สั่งการให้ น.ท.ธงฉาน บุญระเทพ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด นำทหารนาวิกโยธิน พร้อมเรือยาง ออกติดตามเรือประมงชื่อนำโชค ที่เดินเรือมุ่งหน้าไปยังอำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด และกำลังจะมุ่งหน้าสู่จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา ซึ่งเมื่อพบเรือลำดังกล่าวได้ขอทำการตรวจค้น ซึ่งก็พบลูกเรือจำนวน 5 คน เป็นไต๋ก๋งและลูกเรือชาวกัมพูชา 4 คน ส่วนอีกคนเป็นลูกเรือชาวไทย
บนเรือยังพบถังแก๊สทั้งขนาด 15 กิโลกรัม และขนาด 48 กิโลกรัมกว่า 500 ถัง จึงควบคุมเรือประมงดังกล่าวไว้แต่ยังไม่สามารถชักลากเข้ามาได้ เนื่องจากน้ำทะเลลง จึงควบคุมตัวลูกเรือทั้งหมดมาสอบสวนที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 (บ้านหาดเล็ก) และทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า จะนำถังแก๊สทั้งหมดไปจำหน่ายในจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา และทำมา 3 ครั้ง โดยมีการลำเลียงถังแก๊สออกนอกประเทศกว่า 2,000 ถัง ส่วนผู้ที่เป็นเจ้าของเรือคือนาย พร้อมพงษ์ ไม่ทราบนามสกุล และนายทุนชาวจังหวัดตราด
น.อ.นพดล กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นการทำงานร่วมกันกับด่านศุลกากรคลองใหญ่ จังหวัดตราด ที่ร่วมได้ติดตามพฤติกรรมลักลอบนำแก๊สออกจำหน่ายนอกประเทศของกลุ่มผู้ต้องหามานานกว่า 2 เดือน ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาจะนำแก๊สจากจังหวัดจันทบุรี และระยอง ขนส่งทางรถยนต์เพื่อมสลงเรือประมงขนาดเล็กที่ ตำบลอ่าวใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดตราด ก่อนส่งต่อไปยังอำเภอเกาะกูด เพื่อลักลอบส่งต่อไปยังจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา
“ขบวนการดังกล่าวกระทำมานาน 1-2 ปีแล้ว และจะใช้วิธีการขออนุญาตจดทะเบียนเรือประมงขนแก๊ส จากผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เพื่อขนส่งแก๊สไปยังประเทศกัมพูชา และเมื่อถูกจับกุมก็จะวิ่งเต้นกับผู้ใหญ่ ทั้งในจังหวัดตราด และในส่วนกลางจนทำให้ไม่สามารถส่งฟ้องคดีได้ ดังนั้น การจับกุมครั้งนี้กรมศุลกากร จะชักลากเรือประมงลำดังกล่าวเข้าไปดำเนินคดีในกรุงเทพฯ พร้อมลูกเรือ เพื่อจับตัวนายทุนใหญ่มาดำเนินคดีต่อไป ซึ่งกรมศุลกากร ก็จะทำการแถลงข่าวทันทีที่เรือประมงถูกชักลากมาถึงในเย็นวันนี้”น.อ.นพดล กล่ว
