ศูนย์ข่าวศรีราชา - กปช.ตราด ประกาศปิดช่องทางธรรมชาติไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดตราด กว่า 20 จุด หวังกดดันกัมพูชารับผิดชอบกรณียิงเฮลิคอปเตอร์ทหารไทย พร้อมห้ามคนกัมพูชาเข้าไทย ส่วนช่องทางค้ายังคงเปิดปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีทหารกัมพูชา จาก พัน ปชต.303 จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา ใช้อาวุธปืนอาก้ายิงเฮลิคอปเตอร์ส่งเสบียงของกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด จนได้รับความเสียหาย ว่า ล่าสุด หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ฉก.นย.ตราด) ซึ่งนำโดย อน.อ.กิตติคุณ นาคสุก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ได้สั่งการให้ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 1 (บ้านคลองมะนาว ) อำเภอบ่อไร่ ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 3 (บ้านเขาล้าน) อำเภอเมือง และชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 182 (บ้านหาดเล็ก) อำเภอคลองใหญ่ ซึ่งดูแลช่องทางเข้า-ออก ตามแนวชายแดนตั้งแต่บ้านตากแดด ตำบลหนองบอน อำเภอบ่อไร่ ที่มีระยะทางยาว 150 กิโลเมตร และช่องเข้าเข้าออกตามธรรมชาติกว่า 20 จุด ปิดชั่วคราว
พร้อมห้ามชาวกัมพูชาเดินทางเข้าออก เหมือนเช่นเคย แต่ช่องทางการค้ายังคงเปิดทำการค้าขายตามปกติ 5 จุด ประกอบด้วย ช่องบ้านหมื่นด่าน ช่องบ้านมะม่วง อำเภอบ่อไร่ ช่องบ้านชำราก ช่องบ้านท่าเส้น อำเภอเมือง และ ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่
ทั้งนี้ การปิดช่องทางเข้าออกชายแดนครั้งนี้เป็นมาตรการสำคัญ หลัง พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันจันทบุรีและตราด ได้สั่งการให้หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินนโยบายกดดันให้งฝ่ายกัมพูชาขอโทษและรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น และได้เริ่มปฏิบัติ ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 16 ธันวาคมนี้
โดยช่องทางเหล่านี้เป็นช่องทางที่ชาวกัมพูชา ใช้เดินทางเข้ามายังจังหวัดตราด เพื่อทำงานบริเวณชายแดนและยังเป็นช่องทางที่ใช้ในการหลบหนีเข้าเมือง รวมทั้งยังเป็นช่องทางการค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีทหารกัมพูชา จาก พัน ปชต.303 จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา ใช้อาวุธปืนอาก้ายิงเฮลิคอปเตอร์ส่งเสบียงของกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด จนได้รับความเสียหาย ว่า ล่าสุด หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ฉก.นย.ตราด) ซึ่งนำโดย อน.อ.กิตติคุณ นาคสุก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ได้สั่งการให้ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 1 (บ้านคลองมะนาว ) อำเภอบ่อไร่ ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 3 (บ้านเขาล้าน) อำเภอเมือง และชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 182 (บ้านหาดเล็ก) อำเภอคลองใหญ่ ซึ่งดูแลช่องทางเข้า-ออก ตามแนวชายแดนตั้งแต่บ้านตากแดด ตำบลหนองบอน อำเภอบ่อไร่ ที่มีระยะทางยาว 150 กิโลเมตร และช่องเข้าเข้าออกตามธรรมชาติกว่า 20 จุด ปิดชั่วคราว
พร้อมห้ามชาวกัมพูชาเดินทางเข้าออก เหมือนเช่นเคย แต่ช่องทางการค้ายังคงเปิดทำการค้าขายตามปกติ 5 จุด ประกอบด้วย ช่องบ้านหมื่นด่าน ช่องบ้านมะม่วง อำเภอบ่อไร่ ช่องบ้านชำราก ช่องบ้านท่าเส้น อำเภอเมือง และ ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่
ทั้งนี้ การปิดช่องทางเข้าออกชายแดนครั้งนี้เป็นมาตรการสำคัญ หลัง พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันจันทบุรีและตราด ได้สั่งการให้หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินนโยบายกดดันให้งฝ่ายกัมพูชาขอโทษและรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น และได้เริ่มปฏิบัติ ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 16 ธันวาคมนี้
โดยช่องทางเหล่านี้เป็นช่องทางที่ชาวกัมพูชา ใช้เดินทางเข้ามายังจังหวัดตราด เพื่อทำงานบริเวณชายแดนและยังเป็นช่องทางที่ใช้ในการหลบหนีเข้าเมือง รวมทั้งยังเป็นช่องทางการค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
