นครปฐม - ตำรวจภาค 7 ไล่ล่ากดดันติดตาม รวบได้แล้ว 8 ราย ผู้ต้องหาทีมฆ่า 2 นักร้องสาว พร้อมเพื่อนชายดับ 3 ศพ ส่วน “ไอ้เต้ย” มือยิงยังกบดานเงียบ ผู้ต้องหาสารภาพยิงผิดตัวหลังตามรถผิดคัน ตำรวจเตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 3 ราย
วันนี้ (26 เม.ย.) เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง รอง ผบช.ภ. 7 พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.คำรบ ปัญญาแก้ว รอง ผบช.ภ.7 ได้ร่วมกับ พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไชย ผบก.ภ.จว.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี แถลงข่าวการจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุอุกฉกรรจ์มีคนร้ายบุกยิงนักร้องสาว และเพื่อนรวม 3 ศพ เหตุเกิดที่บริเวณซอยสาธิต หมู่ 3 ต.บางกระเบา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เมื่อเวลาประมาณ 02.20 น.ของวันที่ 22 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ในการจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 8 ราย คือ 1. นายณัฐพงษ์ หรือ อ๊อด น้อยไข่ขำ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/6 ม.1 ต.พะเนียด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 2. นายชัยฤทธิ์ หรือติ๊บ รอดปรีชา อายุ 19 ปีอยู่บ้านเลขที่ 26/1 ม.4 ต.ท่าพระยา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 3. นายศุภกฤต หรือบูม น้อยไข่ขำ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/6 ม.1 ต.พะเนียด อ.นครชัยศรื จ.นครปฐม 4. นายสงกรานต์ หรือไป้ ไถ้บ้านกวย อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ม.2 ต.ท่าพระยา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
5. นายพัชชัย หรือโน้ต พรหมมิ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/1 ม.5 ต.ท่าพระยา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 6. นายเพิ่มศักดิ์ หรือเบนซ์ ช้างบุญมี อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ม.3 ต.ท่าพระยา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 7. นายขวัญชัย หรือโอ๋ ฟุ้งขจร อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/8 ม.1 ต.พะเนียด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 8. นายธีรวัฒน์ น้อยมีเจริญ อายุ 23 ปีอยู่บ้านเลขที่ 9/3 ม.4 ต.ท่าพระยา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
โดยผู้ต้องหาทั้ง 8 คนดังกล่าวได้ร่วมวางแผนใช้อาวุธปืนยิง น.ส.วรรณภา หรือไอซ์ อุ่นชิน อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ม.2 ต.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว และ น.ส.วิรุฬภรณ์ หรือเป้ พันสี อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/15 ม.3 ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม สองนักร้องสาว พร้อมด้วยนายปิยะณัฐ หรือโอม มากรักษา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/53 ม.3 ต.บางกระเบา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพื่อนชายดับคารถรวม 3 ศพ
นอกจากจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วยังสามารถยึดของกลางอาวุธปืนคาร์บิน และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ หมายเลขทะเบียน บว 9272 นครปฐม รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน บร 7518 นครปฐม จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีดำ หมายเลขทะเบียน ลทค 448 กทม.ซึ่งเป็นของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุด้วย
พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรภาค 7 และตำรจ ภ.จว.นครปฐม สภ.เมืองนครปฐม และกองปราบปรามได้ร่วมกันสืบสวบสวนพยานแวดล้อมและกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดหลายรอบ พบว่า นอกจากนายวาทิต หรือเต้ย กันแย้ม มือยิง และนายชัยฤทธิ์ หรือติ๊บ รอดปรีชา ผู้ขับรถยนต์คันที่ก่อเหตุ มีการวางแผนมาอย่างชัดเจน กระทั่งติดตามจับกุมผู้ต้องหา 8 คนมาทำการสอบสวนและขยายผลจนทราบว่า ในคืนก่อเหตุมีผู้เข้าร่วมขบวนการทั้งหมด 20 คน และในจำนวนนั้นพบว่า มีนายโน้ต (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) นายอานนท์ หรือเอฟ หิมารัตน์ และนายแนน ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ร่วมด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนก่อนที่จะขออนุมัติหมายจับเพิ่ม
ส่วน นายวาทิต หรือเต้ย มือยิงที่ยังหลบหนีอยู่นั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งสืบสวนติดตามอย่างเร่งด่วนแล้ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวนายชัยฤทธิ์ หรือติ๊บ ไปยังบ่อปลา หลังคอกวัวของนายสงกรานต์ หรือไป้ ตั้งอยู่ที่ ม.4 ต.ท่ากระชับ อ.นครชัยศรี ซึ่งเป็นสถานที่ที่นายวาทิต หรือเต้ย นำอาวุธปืนคาร์บินของกลางไปทิ้งหลังก่อเหตุสำเร็จและแยกย้ายกันหลบหนี
โดยหนึ่งในผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มพวกตนที่มีรวมกว่า 20 คนได้มานั่งดื่มสุราภายในร้านเคโอ ริมถนนสายท่านา-นครชัยศรี ต.บางกระเบา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ต่อมาขณะที่นั่งดื่มกินกันก็ได้มีเหตุเขม่นและทะเลาะวิวาทกับกลุ่มวัยรุ่นที่มานั่งดื่มสุราภายในจนมีคนมาไล่พวกตนออกจากร้าน
ส่วนคู่กรณีที่มีประมาณ 5 คนก็ยังคงให้นั่งอยู่ในร้าน ด้วยความแค้นจึงได้ร่วมกันวางแผนยิงคู่กรณี โดยให้นายวาทิต หรือเต้ย และนายชัยฤทธิ์ หรือติ๊บขับรถยนต์ของตนคันที่ใช้ก่อเหตุกลับไปเอาอาวุธปืนคาร์บินที่บ้านมายิงคู่กรณี โดยตนและนายศุภกฤต หรือบูม น้อยไข่ขำ บุตรชาย ยืนคอยอยู่ที่บริเวณริมถนนหน้าร้านโอเค
จนกระทั่งรถยนต์ของคู่กรณี และรถยนต์ของผู้ตายออกจากร้านนายศุภกฤต หรือบูม ก็ได้ส่งสัญญาณให้กลุ่มของตนที่จอดรถยนต์รออยู่อีกฝั่งถนนตรงข้ามว่ารถยนต์ของผู้ตายคือรถของคู่กรณี และสั่งให้ขับรถติดตามไป นายชัยฤทธิ์ หรือติ๊บ และนายวาทิต หรือเต้ย จึงได้ขับรถติดตามไปทันรถยนต์ของผู้ตายทั้ง 3 คนที่บริเวณที่เกิดเหตุแล้วใช้อาวุธปืนคาร์บินยิงใส่รถยนต์ของผู้ตาย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 3 คน
ส่วนนายสงกรานต์ หรือไป้ ได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน บร 7518 นครปฐม ที่มีกลุ่มเพื่อนกว่า 7-8 คนนั่งท้ายกระบะไปปิดเส้นทางออกปากซอยที่ผู้ตายขับขี่เข้าไป โดยมีนายศุภกฤต หรือบูม และนายขวัญชัย หรือโอ๋ ขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีดำ หมายเลขทะเบียน ลทค 448 กทม.ติดตามกันไป ขณะเดียวกัน ก็มีนายอานนท์ หรือเอฟ หิมารัตน์ และเพื่อนก็ได้ขับรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีฟ้า ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ติดตามไปจอดรอบริเวณเดียวกันก่อนที่จะขับหลบหนีตามกันหลังก่อเหตุ
ทั้งนี้ นายศุภกฤต หรือบูม เล่าว่า ตนเป็นคนที่วิ่งออกมารอกลุ่มของนายวาทิต หรือเต้ย และนายศุภกฤต หรือติ๊บ อยู่ที่เกาะกลางถนนหน้าร้านเคโอ เพื่อชี้เป้าให้ และเมื่อตนเห็นกลุ่มของคู่อริเดินออกมาเป็นกลุ่มใหญ่ และมีหญิงสาวสวมชุดดำออกมาด้วยตนก็คิดว่าคู่อริต้องไปส่งหญิงสาวด้วยกันแน่นอน และเมื่อผู้ตายขับรถยนต์ออกมา ตนก็ชี้ให้กลุ่มนายวาทิต หรือเต้ย ติดตามไปทันที โดยไม่ทันเห็นว่าในรถนั้นมีใครนั่งมาและใช่คู่อริหรือเปล่า เพราะในขณะเดียวกันมีรถยนต์ออกมาพร้อมกัน 2 คัน และแยกกันไปคนละทาง ซึ่งต่อมาหลังก่อเหตุแล้วจึงทราบว่ารถของคู่อรินั้นเป็นอีกคันหนึ่งที่แยกออกไปอีกทาง จึงเป็นการยิงผิดตัวกับเป้าหมายที่ต้องการจะสังหาร
หลังการแถลงข่าว พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไชย ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ท่ามกลางประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมาดูเป็นจำนวนมาก ซึ่งในการทำแผนประกอบคำสารภาพนั้นต้องใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปราบปรามจาก สภ.นครชัยศรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.ภ.จว.นครปฐม รวมกว่า 40 นายมาคอยควบคุมพื้นที่เนื่องจากเกรงจะมีประชาชนมารุมทำร้าย และเตรียมพร้อมหากผู้ห้องหาพร้อมจะหลบหนีเพราะมีผู้ต้องหาหลายคน ซึ่งตลอดการทำแผนประกอบคำรับสารภาพประชาชนหลายต่างมายืนดูด้วยความสมเพชในความโหดเหี้ยม และมีการด่าทอถึงพฤติกรรมที่โหดร้ายของผู้ต้องหาทั้งหมด