เชียงราย - เทศบาลฯ เชียงแสนวางแผนปรับโฉมท่าเรือเชียงแสน 1 หลังการท่าเรือย้ายเข้าบริหารท่าเรือเชียงแสน 2 ปากน้ำกกเบ็ดเสร็จ วางผังผุดดิวตี้ฟรี-ท่าเรือท่องเที่ยว รับทัวร์น้ำโขงที่ยังคงคึกคักต่อเนื่อง
รายงานข่าวจาก จ.เชียงรายแจ้งว่า หลังการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้ยุติการบริหารท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 1 ซึ่งอยู่ในเขตเมืองประวัติศาสตร์เชียงแสน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 55 ที่ผ่านมา และไปบริหารงานท่าเรือแห่งใหม่ซึ่งก่อสร้างขึ้นที่ปากแม่น้ำกก บ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน แทนตามมติคณะรัฐมนตรีไปแล้วนั้น
ล่าสุดการถ่ายโอนท่าเรือแห่งที่ 1 เพื่อให้เทศบาลตำบลเวียงเชียงแสนนำไปใช้เพื่อใช้เป็นท่าเรือด้านการท่องเที่ยวยังไม่แล้วเสร็จ แม้จะมีมติคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินการตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี และเห็นชอบเรื่อยมาหลายรัฐบาลแต่ยังคงติดขั้นตอนในทางปฏิบัติอยู่ ทำให้ปัจจุบันท่าเรือยังคงอยู่ในความดูแลของกรมธนารักษ์ ที่รับผิดชอบพื้นที่ชั่วคราวต่อจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย
ด้านนายชยกฤษณ์ นิสสัยสุข นายกเทศมนตรีตำบลเวียงเชียงแสน กล่าวว่า แม้ตามหลักการจะมีการถ่ายโอนท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 1 ให้เทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน แต่ขั้นตอนในปัจจุบันคือได้มีการโอนไปให้กรมธนารักษ์ดูแลก่อน ซึ่งทางกรมธนารักษ์ได้มีหนังสือสอบถามมายังเทศบาลฯ และทางเทศบาลฯ ก็มีหนังสือยืนยันกลับไปแล้ว คาดว่าจะมีการถ่ายโอนสถานที่ให้เทศบาลฯ ในเร็วๆ นี้
โดยพื้นที่ที่ทางเทศบาลฯ จะเข้าไปบริหารคือ อาคารส่วนหน้าที่เคยเป็นของการท่าเรือแห่งประเทศไทย อาคารกลางริมท่าเรือ ตัวท่าเรือ สถานที่ในภาพรวม ฯลฯ หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องและได้ออกแบบเบื้องต้นเพื่อจะเข้าไปพัฒนาแล้ว
นายชยกฤษณ์กล่าวอีกว่า รูปแบบการพัฒนาท่าเรือคือ จะตั้งอาคารส่วนหนึ่งให้เป็นอาคารอำนวยการและศูนย์ข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ส่วนอาคารกลางริมท่าเรือจะจัดให้ส่วนทิศใต้เป็นเขตปลอดอากร หรือดิวตี้ฟรี เพื่อเปิดให้ผู้ประกอบการเข้าไปบริหารจัดการ โดยหากได้รับพื้นที่ก็จะมีการเข้าไปสำรวจ คาดว่าจะมีเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางเมตร และทำการเปิดประมูลเพื่อให้เอกชนเข้าไปดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์และสร้างความคึกคักให้แก่พื้นที่ เพราะเป็นท่าเรือด้านการท่องเที่ยวอยู่แล้ว
ส่วนทางด้านทิศเหนือของอาคารจะมีการจัดทำเป็นร้านค้าหรือบูทของเทศบาลฯ เอง ด้านตัวท่าเรือที่มีอยู่แล้วคงจะเน้นเรื่องการท่องเที่ยวเป็นหลัก เพราะเหมาะกับเรือที่มีขนาดใหญ่มากกว่าจะเป็นเรือโดยสารเล็กทั่วไปที่ประชาชนไทย-สปป.ลาว ใช้เพื่อการสัญจรไปมาตามปกติบริเวณหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน
นายกเทศมนตรีตำบลเวียงเชียงแสนกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ด้านงบประมาณและรายละเอียดในการดำเนินการคงจะมีการประชุมหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องอีกครั้งเมื่อได้รับการถ่ายโอนท่าเรืออย่างเป็นทางการแล้ว
ทั้งนี้ แนวโน้มด้านการท่องเที่ยวผ่านแม่น้ำโขงยังคงมีความคึกคักและดีขึ้นแม้จะมีเหตุการณ์รุนแรงเกี่ยวกับเรือสินค้าจีน แต่ในปัจจุบันเรือท่องเที่ยวของ สปป.ลาวกลับมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะเส้นทางท่องเที่ยวสายไปเมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นเมืองมรดกโลกของ สปป.ลาว ขณะที่เรือสินค้าท่องเที่ยวอื่นๆ ก็ยังคงมีความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเรือท่องเที่ยวของจีน เช่น เรือเทียนต๋า เรือเจ้าชาย ฯลฯ รวมทั้งผู้ประกอบการไทยก็มีความพร้อมและประกอบการด้านนี้มาอย่างต่อเนื่องแล้วด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในปัจจุบันมีเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในแม่น้ำโขงหลายราย แต่เอกชนไทยที่มีความโดดเด่นที่สุดในปัจจุบันคงเป็นบริษัทแม่โขงเดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด ซึ่งเปิดกิจการท่องเที่ยวแม่น้ำโขงมาอย่างต่อเนื่อง ถึงขั้นมีการซื้อเรือท่องเที่ยวเพื่อการรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ รวมทั้งมีความชำนาญด้านกิจการดิวตี้ฟรี ซึ่งมีห้างร้านอยู่ที่ตลาด จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย และเอกชนรายเดียวกันนี้เข้าไปสนับสนุนกิจการของท่าเรือและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง จนถูกคาดการณ์ว่าท้ายที่สุดคงจะได้ประมูลเข้าไปบริหารจัดการท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 1 ดังกล่าว