ศรีสะเกษ - ชาวไทยเชื้อสายเขมรโบราณ อ.กันทรลักษ์ ศรีสะกษ ร่วมทำพิธีบวงสรวงเซ่นไหว้ “ปราสาทโดนตรวล” ใกล้เขาพระวิหาร และทำบุญเลี้ยงพระอุทิศส่วนกุศลแด่ทหารไทย-กัมพูชา ที่เสียชีวิตสู้รบบริเวณเขาพระวิหาร ขณะ “พล.อ.วรวิทย์” เลขาฯ รมว.กลาโหม ยันบริเวณเขาพระวิหารจะไม่มีการสู้รบอีก เนื่องจากว่าผู้ใหญ่ทั้ง 2 ชาติ มีสัมพันธ์อันดีต่อกัน
วันนี้ (20 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณปราสาทโดนตรวล ใกล้กับปราสาทเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายศักดิ์สิทธิ์ พลทรัพย์ศิริ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย นายโชคชัย สายแก้ว นายก อบต.เสาธงชัย ได้นำชาวบ้านในเขต ต.เสาธงชัย ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ ซึ่งอยู่ติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และส่วนมากเป็นชาวไทยเชื้อสายเขมรโบราณ ได้พากันนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 89 รูป มาประกอบพิธีทำบุญเลี้ยงพระและบวงสรวงเซ่นไหว้ปราสาทโดนตรวล โดยมีชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย และทุกหมู่บ้าน ของ อ.กันทรลักษ์ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มาร่วมพิธีประมาณ 1,000 คน ท่ามกลางทหารไทยรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่
นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ กล่าวว่า การเซ่นไหว้ประสาทโดนตรวลมีมานานแล้ว โดยจะจัดพิธีขึ้นในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อเป็นการบวงสรวงปราสาทโดนตรวลซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวไทยเชื้อสายเขมรโบราณที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย
- กัมพูชา ทั้งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนที่ชาวบ้านจะพากันไปทำไร่ทำนาและเพื่อขอให้การทำไร่ทำนามีความอุดมสมบูรณ์
อีกทั้งเพื่อเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ทหารไทย และ ทหารกัมพูชา รวมทั้งประชาชนชาวไทยที่เสียชีวิตจากการสู้รบที่บริเวณเขาพระวิหารด้วย
ต่อมาเวลา 11.45 น.วันเดียวกันนี้ พล.อ.วรวิทย์ ชินะนาวิน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและคณะ ได้เดินทางมาร่วมพิธีเซ่นไหว้ปราสาทโดนตรวลด้วย พร้อมทั้งได้มอบสิ่งของเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ชาวบ้านภูมิซรอลที่ประสบภัยสงครามไฟไหม้บ้านทั้งหลังจำนวน 7 หลัง และได้ขึ้นปราศรัยพบปะกับชาวบ้านที่มาร่วมพิธีในครั้งนี้
พล.อ.วรวิทย์ ชินะนาวิน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ตนมาตรวจพื้นที่ที่บริเวณชายแดนด้านเขาพระวิหารเพื่อรับทราบข้อมูลสถานการณ์ต่าง ๆ จะได้นำเอาข้อมูลไปรายงานให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้รับทราบ ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อยู่ในสภาวะที่ปกติ และตนขอยืนยันว่า จะไม่มีการสู้รบกันอีกระหว่างทหารไทย-กัมพูชา อีกต่อไป เนื่องจากขณะนี้ความสัมพันธ์ของผู้ใหญ่ทั้ง 2 ประเทศเป็นไปด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งทำให้เศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ดียิ่งขึ้น