เสื่อม! จับสึกดำเนินคดี “พระ” ฆ่า “พระ” อดีตทหารยศ “พ.อ.” แฉดวดเหล้าทะเลาะตีกันดับ

ศรีสะเกษ - ตำรวจศรีสะเกษนำตัว “พระ” ผู้ต้องหาเป็นคนร้ายฆ่า “พระ” อดีตนายทหาร ศรภ.ยศ “พ.อ.” วัย 66 ปี มรณภาพคากุฏิวัดดังกลางเมืองศรีสะเกษ ไปทำการสึกพร้อมแจ้งข้อหาดำเนินคดีแล้ว หลังมีพยานหลักฐานมัดแน่นเป็นคนลงมือฆ่า แต่เจ้าตัวยังปากแข็งให้การปฏิเสธ พยานระบุ 2 พระตั้งวงนั่งดื่มเหล้ากัน คาดทะเลาะจนเป็นเหตุตีกันดับ

วันนี้ (18 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.ท.บุญเรือง คำเนตร สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ได้นำตัวพระอภิรักษ์ ธัมมรโต อายุ 37 ปี พระลูกวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยทำร้ายร่างกายพระวิรัตน์ จิตตธัมโม อายุ 66 ปี พระลูกวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จนทำให้พระวิรัตน์มรณภาพ ไปให้พระครูวิธาน มงคลกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเจียงอีศรีมงคลวรารามและเป็นเจ้าคณะตำบลเมืองใต้ ทำการสึกเพื่อนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเช้าวันเดียวกันนี้ (18 เม.ย.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษได้รับแจ้งว่ามีพระภิกษุนอนมรณภาพอยู่ที่กุฏิภายในวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม จึงได้ออกไปทำการตรวจที่เกิดเหตุพบศพ พระวิรัตน์ จิตตธัมโม หรือเพชรนอก อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161/209 หมู่ 1 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นอดีตนายทหารยศ “พันเอก” ประจำกองทัพบก ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) กรุงเทพฯ นอนมรณภาพอยู่ภายในกุฏิของพระอภิรักษ์ มีบาดแผลอยู่ที่เหนือกกหูซ้าย ซึ่งจากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ทั้งพระวิรัตน์ ผู้มรณภาพ และพระอภิรักษ์นั้นเป็นพระที่สนิทสนมกัน รับกิจนิมนต์ไปไหนมาไหนด้วยกัน ก่อนที่จะพบเป็นศพ

โดยพยานที่เห็นเหตุการณ์ให้การว่า พระทั้ง 2 รูปได้นั่งดื่มเหล้าด้วยกัน เจ้าหน้าที่เชื่อว่าพระอภิรักษ์เป็นผู้ลงมือทำร้ายร่างกายพระวิรัตน์จนมรณภาพ ซึ่งหลังจากที่ทำการสึกแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายอภิรักษ์มาสอบปากคำ ในเบื้องต้นนายอภิรักษ์ยังให้การปฏิเสธ

แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานบุคคล พยานแวดล้อม และหลักฐานในที่เกิดเหตุมัดแน่นชัดเจน ทำให้เชื่อได้ว่านายอภิรักษ์เป็นผู้ลงมือทำร้ายร่างกายพระวิรัตน์ จิตตธัมโม จนถึงแก่มรณภาพจริง พ.ต.ท.บุญเรือง คำเนตร สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ จึงได้แจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ต่อนายอภิรักษ์ หรืออดีตพระอภิรักษ์ จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวนายอภิรักษ์ผู้ต้องหาไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป