วัยรุ่นกรุงเก่ายิงหนุ่มนนท์สาหัส ไม่พอใจบีบแตรใส่ขณะเล่นสงกรานต์

พระนครศรีอยุธยา - หนุ่มนนทบุรีอยากมาเล่นน้ำสงกรานต์กรุงเก่า รถติดบีบแตรขอทาง เจอวัยรุ่นท้องถิ่นไม่พอใจรุมทุบรถ เร่งเครื่องหนีแต่ถูกตามไล่ยิงตามเข้ากลางหลัง อาการสาหัส ตำรวจเร่งล่ามือปืน

วันนี้ (15 เม.ย.) พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เข้าตรวจสอบรถโตโยต้า ยาริส สีแดง หมายเลขทะเบียน ชฎ 1172 กรุงเทพมหานคร ของนายจิระกร พลอยสิงโต อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ม.8 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุวัยรุ่นรุมทำร้ายและยิงใส่รถขณะมาเล่นสงกรานต์ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวานนี้ (14 เม.ย.) ที่ถนนสายอยุธยา-อ่างทองสายใน ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าวพบร่องรอยกระสุนปืนยิงเข้ากระจกหลัง และข้างประตูรถถูกตีด้วยของแข็ง และขณะนี้ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่วิทยาการตรวจสอบ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งติดตามหาพยานที่เกิดเหตุ และทราบจากชาวบ้านว่าผู้ที่ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นที่เมาสุราก่อความเดือดร้อน

ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวสืบเนื่องจากนายจิระกร หนุ่มพนักงานบริษัทในจังหวัดนนทบุรี ขับรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีแดง หมายเลขทะเบียน ชฎ 1172 กทม. มาเล่นน้ำสงกรานต์ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกกลุ่มวัยรุ่นที่เล่นน้ำสงกรานต์เมา เต้นรำขวางถนนทำให้รถติดยาว ที่ถนนภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มุ่งหน้าจังหวัดอ่างทอง เกิดปีบแตรขอทาง ทำให้กลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวด้วยความเมา หลายคนวิ่งล้อมหน้าล้อมหลังรถ บ้างก็ใช้ไม้และขวดตีที่รถ

จากนั้นได้เร่งขับรถหนีแต่กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวใช้อาวุธปืนไล่ยิงตามหลังรถ กระสุนทะลุกระจกรถถูกคนขับรถเสียหลักลงข้างทาง หน่วยกู้ภัยต้องเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา อาการสาหัสเข้าห้องไอซียู ขณะนี้ยังคงรอดูอาการเนื่องจากถูกกระสุนปืนเข้ากลางหลัง 1 นัด

นางใจ หล่มเสม ป้าของผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส บอกว่า หลานได้ขอมาเที่ยวเล่นวันสงกรานต์ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเมื่อวานนี้กับแฟน โดยได้ชวนหลานชายมาด้วยแต่หลานไม่มา ถ้าหากหลานมาด้วยก็คงจะถูกลูกปืนเช่นกัน เพราะถ้ามาก็จะนั่งตรงเบาะด้านหลัง พอได้ทราบข่าวกลัวมาก กลัวหลานจะตาย อยากให้ตำรวจเร่งจับคนร้ายโดยเร็ว

ส่วนแพทย์เวรในโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยากล่าวว่า ขณะนี้ยังต้องรอดูอาการก่อนเพราะกระสุนเข้าจุดสำคัญ คือที่ปอด โดยแพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด แต่คนไข้ได้พ้นขีดอันตรายแล้ว