ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- หนุ่มโรงงานชาวโคราช เพิ่งแต่งงานซิ่ง จยย.กลับบ้าน พุ่งชนท้ายรถอีแต๋นอัดก๊อบปี้ถูกลากศพพร้อมซากรถไปไกลเกือบ 2 กม.ด้านคนขับอีแต๋นไม่รู้ตัวขับไปเฉย จนชาวบ้านตะโกนบอกจึงลงมาดูถึงกับผงะ ด้าน ตร.ระบุสาเหตุขับรถเร็ว มืด อีแต๋นไม่มีไฟท้าย จึงพุ่งชนอย่างจังตายคาที่ ก่อนคุมตัวคนขับอีแต๋นดำเนินคดีต่อไป
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ (8 มี.ค.) ร.ต.ท.ไพศาล อัยรา ร้อยเวรสอบสวน สภ.จอหอ ได้รับแจ้งจากผู้ใช้รถใช้ถนน ว่า พบศพชายนิรนาม ห้อยติดอยู่กับซากรถจักรยานยนต์ที่พุ่งชนท้ายรถเพื่อการเกษตร หรือ รถอีแต๋น โดยรถอีแต๋นยังคงวิ่งอยู่บนถนนสายบายพาส สามแยกปักธงชัย-จอหอ ช่วงบ้านหนองออก ต.จอหอ อ.เมือง จึงวิทยุแจ้งให้สายตรวจตู้ยามหนองออก สกัดเพื่อหยุดรถคันดังกล่าว พร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ฮุก 31 ประจำจุดตำบลจอหอ รุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งชาวบ้านได้ช่วยกันหยุดรถอีแต๋น พบรถอีแต๋น หมายเลขทะเบียน ฆฆ 2132 นครราชสีมา โดยที่ด้านท้ายของรถพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 125 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน คธล 406 นครราชสีมา สภาพพุ่งชนอัดก็อปปี้ติดอยู่ท้ายรถอีแต๋นทั้งจักรยานยนต์และคนขับเสียชีวิตทันทีทราบชื่อ คือ นายบุญลือ สร้อยโคกสูง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 202 ม.7 ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา สภาพศพบริเวณใบหน้ายุบ กะโหลกแตก กระดูกตามร่างกายหักทั้งตัวเนื่องจากแรงกระแทกกับท้ายรถอีแต๋น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย จึงได้นำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
จากการสอบสวน นายทัด ฮุกสันเทียะ อายุ 46 ปี คนขับรถอีแต๋น ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้ขับรถอีแต๋นมาจาก ต.หมื่นไวย อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อเดินทางกลับบ้านพักในเขต ต.พุดซา อ.เมือง ซึ่งอยู่ห่างกันเกือบ 20 กิโลเมตร โดยขับรถมาตามถนนสายหลัก ถ.มิตรภาพตัดเข้า ถ.สุรนารายณ์ มาถึงกลางทางมีความรู้สึกเหมือนมีอะไรชนเข้ากับท้ายรถ แต่เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นทางมืด และค่อนข้างเปลี่ยว ตนก็ไม่จอดลงมาดูและขับรถไปตามปกติ โดยขับมาได้เกือบ 2 กิโลเมตร ระหว่างทางมีรถของประชาชนที่ขับตามด้านหลังมา บางรายก็บีบแตร หรือบางรายก็ส่องไฟสูงใส่ แต่ตนไม่ได้เอะใจคิดว่าคงให้สัญญาณในการแซง เนื่องจากรถตนขับช้า จนมาถึงตู้บริการประชาชนสายตรวจหนองออก ได้มีชาวบ้านที่ตั้งร้านขายของริมทางวิ่งมาตะโกนบอกว่ามีศพถูกลากอยู่ท้ายรถอีแต๋น ด้วยความตกใจจึงรีบจอดรถและลงมาดู ก็พบว่ามีศพพร้อมซากรถจักรยานยนต์ติดอยู่กับท้ายรถของตนแล้ว
ด้าน ร.ต.ท.ไพศาล กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบว่า นายบุญลือ ผู้ตาย ทำงานอยู่โรงงานในเขต ต.โคกกรวด อ.เมือง ได้ขับรถจักรยานยนต์เพื่อกลับบ้านในเขต ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา โดยใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ เช่นเดียวกับวันนี้ได้ขับรถมาด้วยความเร็วไม่ทันสังเกตเห็นรถอีแต๋นที่วิ่งอยู่ด้านหน้า ประกอบกับรถอีแต๋นไม่มีไฟส่องสว่างด้านท้ายและเป็นช่วงที่มืดสนิท จึงเป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์พุ่งชนท้ายรถอีแต๋นอย่างแรงอัดก๊อบปี้ติดไปกับท้ายรถ ซึ่งแรงกระแทกทำให้หมวกกันน็อกที่นายบุญลือสวมมาแตกกระจายเป็นเหตุให้เสียชีวิตคาที่ แต่ขาของนายบุญลือ ยังติดอยู่กับซากรถจักรยานยนต์ที่อัดก็อปปี้อยู่ท้ายรถอีแต๋น ซึ่งนายทัด คนขับรถอีแต๋นไม่ทราบว่ามีรถชนท้าย และมีศพติดอยู่ จึงขับรถไปตามปกติและลากศพนายบุญลือไปไกลเกือบ 2 กม.จนกระทั่งมีชาวบ้านตะโกนบอกจึงหยุดรถและลงมาดู เบื้องต้นจะสอบสวนผู้เกี่ยวข้องก่อนแจ้งข้อหานายทัด และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายบุญลือ ผู้ตาย เพิ่งเข้าพิธีแต่งงานไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุ บรรดาญาติพี่น้องรวมถึงแฟนสาวที่ทราบข่าวร้ายต่างพากันเดินทางมาดูศพ และทันทีที่เห็นสภาพของนายบุญลือ ญาติพี่น้องถึงกับเป็นลม ร้องไห้ฟูมฟาย สร้างความสลดหดหู่ให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
