ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.สภ.โพธิ์กลาง โคราชรวบ 2 หนุ่มค้าของเก่าจอมโหด คว้าอีโต้ยาว 2 ฟุตกระหน่ำฟันไม่ยั้งมือ “เด็กชาย” 11 ขวบดับสยอง เหตุแค่ร่วมวงดวดเหล้า ผู้ตายเดินเหยียบมือไม่ยอมขอโทษและพูดจาไม่เข้าหู จึงลวงไปฆ่าทิ้ง
วันนี้ (10 เม.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ 3) พร้อมด้วย พล.ต.ต.กรกต สาริยา รอง ผบช.ภ. 3 พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.) นครราชสีมา พ.ต.อ.อัทธชนม์ ช่วงงาม ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคนร้ายก่อเหตุใช้มีดอีโต้ฟันเด็กชายอายุ 11 ขวบดับสยอง ได้ผู้ต้องหา 2 คน คือ นายสถาพร หรือโก้ วิสันเทียะ อายุ 19 ปี มือมีดผู้ลงมือก่อเหตุ อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 8 ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา และนายธวัชชัย หรือช้าง แช่มพรมราช อายุ 27 ปี ผู้ร่วมก่อเหตุ อยู่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 2 ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมของกลางมีดอีโต้ยาว 2.5 ฟุต 1 เล่ม และเชือกไนลอน
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 9 เมษายน หลังตำรวจ สภ.โพธิ์กลางรับแจ้งมีคนพบศพอยู่ริมคลองส่งน้ำ ซอยข้างปฐพีทอง บ้านคนชุม หมู่ 1 ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง พบว่าเป็นศพของ ด.ช.สหภาพ หรือม่อน ร่มแสง อายุ 11 ขวบ สภาพมีบาดแผลถูกฟันบริเวณศีรษะ ใบหน้า และแขนจนเหวอะหวะ มีเชือกไนลอนมัดที่ลำคอ นอนเสียชีวิตในสภาพน่าสยดสยอง จากนั้นจึงสืบสวนสอบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเป็นคนลงมือก่อเหตุสลดดังกล่าว กระทั่งติดตามจับกุมได้ที่บ้านพักที่บ้านคำทวด หมู่ 4 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน
นายสถาพร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพรับซื้อของเก่า ก่อนเกิดเหตุได้ร่วมวงดื่มเหล้ากับนายธวัชชัย ผู้ต้องหาอีกคน และ ด.ช.สหภาพ ผู้ตาย โดยรู้จักกับผู้ตายมาก่อนแต่ไม่สนิทกัน ในระหว่างนั่งดื่มเหล้าจนมีอาการเมา ด.ช.สหภาพเดินเหยียบมือแต่ไม่ยอมขอโทษแถมยังพูดจาไม่เข้าหู ไม่มีกาลเทศะทั้งที่ยังเป็นเด็ก จึงชักชวนผู้ตายนั่งรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ฮอนด้า เวฟ สีม่วง ทะเบียน ดงต 926 นม. เพื่อไปเที่ยวต่อ
ระหว่างนั่งรถมาด้วยกัน 3 คน มาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ด.ช.สหภาพ ผู้ตาย ยังพูดจายั่วโมโห จึงใช้มีดอีโต้ที่พกมาในรถฟันที่ท้ายทอย 1 ครั้งจนล้มฟุบคารถ ก่อนถีบตกจากรถแล้วกระหน่ำฟันแบบไม่ยั้งมือจนเสียชีวิต จากนั้นนายสถาพร และนายธวัชชัยช่วยกันใช้เชือกไนลอนผูกคอผู้ตายเพื่อจะลากศพไปทิ้งในคลองส่งน้ำ แต่ลากไปไม่ไหวจนต้องแยกย้ายกันหลบหนี กระทั่งถูกตำรวจตามจับกุมตัวในที่สุด
ทั้งนี้ ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมกับควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป