ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เกิดเหตุเยาวชนที่ถูกควบคุมอยู่ภายในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและคุ้มครองเยาวชนเขต 3 นครราชสีมา ใช้เสียม และจอบ ทุบกำแพง หลบหนีไปรวม 13 คน คาดคิดถึงบ้านและต้องการหนีออกไปเที่ยวงานลอยกระทง ขณะเจ้าหน้าที่ศูนย์ฝึกฯ ปิดปากเงียบไม่ยอมให้ข้อมูลโดยอ้างเป็นคำสั่งจากผู้ใหญ่ เผยเกิดเหตุการณ์เด็กหลบหนีซ้ำซาก
วันนี้ ( 6 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สมเงิน คู่ตระกูล สารวัตรเวร สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากครูผู้ควบคุมเด็กและเยาวชน จากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 นครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ ถ.คลองส่งน้ำ มิตรภาพซอย 15 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ว่า มีเด็กและเยาวชนที่ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในศูนย์ดังกล่าว ใช้จอบ และเสียม ทำการทุบกำแพง และหลบหนีออกไปได้
หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานให้สถานีตำรวจภูธรใกล้เคียงช่วยกันติดตามจับกุม
โดยจากการตรวจสอบพบว่าเด็กและเยาวชนที่หลบหนี ส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน อายุไม่เกิน 18 ปี ถูกควบคุมในข้อหา ยาเสพติด และลักทรัพย์ รวมทั้งสิ้น 13 คน ประกอบด้วย เด็กและเยาวชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี 1 คน , จ.สระบุรี 6 คน , จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 2 คน และ จ.นครราชสีมา จำนวน 4 คน
จากการตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่า เด็กและเยาวชนที่หลบหนีทั้งหมด ได้ใช้จอบและเสียม ทุบกำแพงปูนที่อยู่บริเวณด้านหลังศูนย์ฝึกฯ ติดกับป่า วิ่งหลบหนีไป คาดว่า จะมี นายโย นามสมมติ อายุ 18 ปี ชาว จ.ชลบุรี เป็นหัวหน้าทีม พาเพื่อนในกลุ่มหลบหนี ซึ่งจากการสอบสวนครูผู้ควบคุม เบื้องต้น ทราบว่า เด็กและเยาวชนทั้งหมดน่าจะคิดถึงบ้านและบางรายอาศัยจังหวะหลบหนีไปเที่ยวงานประเพณีลอยกระทงที่จะมาถึง โดยอาศัยช่วงบ่ายที่ปล่อยให้พักผ่อน แอบนำจอบ และเสียม ที่ใช้ในการทำการเกษตรมาทุบกำแพงด้านหลัง ก่อนแยกย้ายกันวิ่งหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังเร่งติดตามจับกุมเด็กและเยาวชนที่หลบหนีทั้งหมดกลับมาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การหลบหนีของเด็กและเยาวชนทั้ง 13 คน ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 นครราชสีมา ได้พยายามปิดข่าวไม่ให้สื่อมวลชนทราบ โดยไม่ยอมให้ข้อมูลหรือรายละเอียดแต่อย่างใด อ้างว่าเป็นคำสั่งของผู้ใหญ่ ทั้งนี้ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 นครราชสีมา แห่งนี้ ช่วงงานเทศกาลต่างๆ มักจะมีเด็กและเยาวชนที่ถูกควบคุมก่อเหตุหลบหนีออกไปหลายครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มมาตรการดูแล ทั้งการก่อกำแพงล้อมรอบ การติดตั้งกล้องวงจรปิด รวมถึงการเข้มงวดตรวจสอบเด็กและเยาวชนที่ถูกควบคุมตลอดเวลา แต่ก็ยังไม่วายมีเด็กและเยาวชนหลบหนีออกไปได้เช่นเดิม
วันนี้ ( 6 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สมเงิน คู่ตระกูล สารวัตรเวร สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากครูผู้ควบคุมเด็กและเยาวชน จากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 นครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ ถ.คลองส่งน้ำ มิตรภาพซอย 15 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ว่า มีเด็กและเยาวชนที่ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในศูนย์ดังกล่าว ใช้จอบ และเสียม ทำการทุบกำแพง และหลบหนีออกไปได้
หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานให้สถานีตำรวจภูธรใกล้เคียงช่วยกันติดตามจับกุม
โดยจากการตรวจสอบพบว่าเด็กและเยาวชนที่หลบหนี ส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน อายุไม่เกิน 18 ปี ถูกควบคุมในข้อหา ยาเสพติด และลักทรัพย์ รวมทั้งสิ้น 13 คน ประกอบด้วย เด็กและเยาวชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี 1 คน , จ.สระบุรี 6 คน , จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 2 คน และ จ.นครราชสีมา จำนวน 4 คน
จากการตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่า เด็กและเยาวชนที่หลบหนีทั้งหมด ได้ใช้จอบและเสียม ทุบกำแพงปูนที่อยู่บริเวณด้านหลังศูนย์ฝึกฯ ติดกับป่า วิ่งหลบหนีไป คาดว่า จะมี นายโย นามสมมติ อายุ 18 ปี ชาว จ.ชลบุรี เป็นหัวหน้าทีม พาเพื่อนในกลุ่มหลบหนี ซึ่งจากการสอบสวนครูผู้ควบคุม เบื้องต้น ทราบว่า เด็กและเยาวชนทั้งหมดน่าจะคิดถึงบ้านและบางรายอาศัยจังหวะหลบหนีไปเที่ยวงานประเพณีลอยกระทงที่จะมาถึง โดยอาศัยช่วงบ่ายที่ปล่อยให้พักผ่อน แอบนำจอบ และเสียม ที่ใช้ในการทำการเกษตรมาทุบกำแพงด้านหลัง ก่อนแยกย้ายกันวิ่งหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังเร่งติดตามจับกุมเด็กและเยาวชนที่หลบหนีทั้งหมดกลับมาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การหลบหนีของเด็กและเยาวชนทั้ง 13 คน ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 นครราชสีมา ได้พยายามปิดข่าวไม่ให้สื่อมวลชนทราบ โดยไม่ยอมให้ข้อมูลหรือรายละเอียดแต่อย่างใด อ้างว่าเป็นคำสั่งของผู้ใหญ่ ทั้งนี้ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 นครราชสีมา แห่งนี้ ช่วงงานเทศกาลต่างๆ มักจะมีเด็กและเยาวชนที่ถูกควบคุมก่อเหตุหลบหนีออกไปหลายครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มมาตรการดูแล ทั้งการก่อกำแพงล้อมรอบ การติดตั้งกล้องวงจรปิด รวมถึงการเข้มงวดตรวจสอบเด็กและเยาวชนที่ถูกควบคุมตลอดเวลา แต่ก็ยังไม่วายมีเด็กและเยาวชนหลบหนีออกไปได้เช่นเดิม
