โคราชรวบแก๊งตระเวนลักทรัพย์บ้าน ปชช.-อ้างเป็นหน่วยกู้ภัยตบตาก่อเหตุ

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.โคราช รวบแก๊งตระเวนลักทรัพย์ ในบ้านเรือน ปชช.ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางอื้อ เผย อ้างเป็น จนท.กู้ภัย ทำทีไปช่วยชาวบ้าน แต่กลับเข้าไปงัดแงะเอาทรัพย์สิน สารภาพทำทีตีสนิทกับหน่วยกู้ภัย ก่อนซื้อชุดมาใส่ และพิมพ์นามบัตรแจก หลอกเป็นหน่วยกู้ภัยฉุกเฉิน จ้าง จยย.ตระเวนดูบ้านปลอดคนก่อนย่องงัด

วันนี้ (28 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ. ผดุงเกียรติ ศิริพรวิวัฒน์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อม พ.ต.ท.ภูมิ ทองโพธิ์ สารวัตรสืบสวน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายฤกษ์มงคล หรือ ตูน อังคณิกุล อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 ม.8 ต.กุดโบสถ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา, นายอุทัย นิลแย้ม อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2259 ถ.สืบศิริ ซ.4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา และ นายประกิต ทรัพย์กิ่ง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 416 ซ.วัดม่วง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในเคหสถาน พร้อมของกลางอีกหลายรายการ เช่น ไฟฉาย, ไขควง รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้งัดแงะ, พระเครื่อง, นาฬิกา, กล่องใส่ทองรูปพรรณ และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก พร้อมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อีกจำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ออกตรวจพื้นที่ซอยกิ่งจันทร์ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา พบ นายฤกษ์มงคล หรือ ตูน อังคณิกุล ผู้ต้องหารายที่ 1 มีพิรุธ โดย นายตูน อ้างตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิกู้ภัยแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น พบอุปกรณ์งัดแงะอยู่ในตัวนายตูนจำนวนมาก จึงได้นำตัวไปตรวจค้นที่ห้องพัก พบของกลางอีกหลายรายการ

เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ของกลางทั้งหมดเป็นทรัพย์สินที่ลักมาจากบ้านเรือนประชาชนและจากการสอบประวัติ พบว่า นายฤกษ์มงคล หรือ ตูน มีหมายจับของ สภ.โพธิ์กลาง คดีลักทรัพย์ เมื่อปี 2549 จึงได้นำตัวมาสอบสวนจนกระทั่งยอมรับสารภาพ

ด้าน นายฤกษ์มงคล หรือ ตูน อังคณิกุล ผู้ต้องหารับสารภาพ ว่า ได้เข้าไปตีสนิทกับอาสาสมัครกู้ภัยของจังหวัดนครราชสีมา และได้หาซื้อชุดของมูลนิธิมาสวมใส่ เพื่อแอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพฉุกเฉิน พร้อมทำนามบัตรส่วนตัว เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือ และในช่วงกลางคืนจะว่าจ้างรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ตระเวนดูบ้านเรือนประชาชน โดยหากหลังใดไม่มีคนอยู่ จะทำทีเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน ก่อนย่องเข้าไปงัดบ้านลักทรัพย์สินและทำมาหลายครั้งแล้ว ทรัพย์สินที่ขโมยมาได้นำไปขายให้กับ นายอุทัย นิลแย้ม ซึ่งเป็นเซียนพระโคราช และ นายประกิต ทรัพย์กิ่ง ที่เปิดร้านรับซื้อของมือสอง โดยอ้างว่า ทรัพย์สินที่นำมาขายเก็บได้จากการออกไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ

ด้าน นายไพศาล ศุภวีระกุล หัวหน้าอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิพุทธรรมการกุศล (ฮุก 31) จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จากการตรวจสอบการขึ้นทะเบียนอาสาสมัครกู้ภัยฮุก 31 ไม่พบชื่อ นายฤกษ์มงคล หรือ ตูน อังคณิกุล เป็นอาสาสมัครของหน่วยกู้ภัย ฮุก 31 แต่อย่างใด และทางมูลนิธิไม่เคยรู้จัก นายตูน มาก่อน ส่วนที่มีชุดของมูลนิธิผู้ต้องหาสามารถหาซื้อชุดมาจากร้านขายเสื้อผ้าในตัวเมืองนครราชสีมา มาสวมใส่

ที่สำคัญ ทางมูลนิธิไม่มีนโยบายให้อาสาสมัครเก็บทรัพย์สินของผู้ประสบภัยเป็นของส่วนตัว เพราะทรัพย์สินทุกชิ้นที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุของผู้ประสบภัยต้องส่งคืนให้ทั้งหมด ซึ่งมูลนิธิจะให้ฝ่ายกฎหมายเข้าดำเนินการแจ้งความเพิ่มเติมกับนายตูน ที่แอบอ้างชื่อมูลนิธิไปก่ออาชญากรรม และเพื่อไม่ให้มูลนิธิเสื่อมเสียชื่อเสียง