ศูนย์ข่าวขอนแก่น- “ปตท.” ยันไม่เพิ่มสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวีในภาคอีสาน แม้รัฐอนุมัติให้ปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีอีก 6 บาท/กิโลกรัม เผยแนวทางหลักมุ่งขยายสถานีเพิ่มตามแนวท่อเท่านั้น แย้มพร้อมเพิ่มกำลังการผลิตที่สถานีหลัก อ.น้ำพอง อีก 175 ตัน/วัน แต่ไม่รับปากว่าจะเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ หากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบยังปรับขึ้น
จากปัญหาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ เอ็นจีวี ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวีเพียงไม่กี่แห่ง ล่าสุดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อนุมัติให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีอีก 6 บาท/กิโลกรัม โดยทยอยปรับขึ้นเดือนละ 50 สตางค์ทุกวันที่ 16 ของเดือน ตั้งแต่ 16 มกราคมเป็นต้นไป จนถึงสิ้นปี 2555 จะทำให้ราคาก๊าซเอ็นจีวี ณ สถานีต้นทางอยู่ที่ระดับ 14.50 บาท/กิโลกรัม จากเดิมที่ตึงราคาไว้ที่ 8.50 บาท/กิโลกรัม มาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งการปรับขึ้นราคาครั้งนี้ผู้ใช้รถยนต์ต่างตั้งความหวังว่าปัญหาก๊าซเอ็นจีวีขาดน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
แม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบ 4 เดือนแล้ว แต่ปัญหาก๊าซเอ็นจีวีไม่เพียงพอต่อความต้องการก็ยังไม่คลี่คลาย โดยเฉพาะปั๊มเอ็นจีวีในพื้นที่ภาคอีสานแทบทุกปั๊มยังคงพบเห็นรถบรรทุกจอดรอเติมก๊าซเอ็นจีวีหลายสิบคัน มีทั้งรถยนต์นั่ง รถยนต์กระบะ เข้าคิวรอเติมก๊าซเอ็นจีวียาวเหยียดเช่นเดิม
แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2555 ปตท.ไม่มีแผนขยายสถานีบริการเอ็นจีวีเพิ่มในพื้นที่อีสาน ทั้งนี้ นโยบายการเพิ่มปั๊มก๊าซเอ็นจีวี ปตท. มีแผนเพิ่มปั๊มในรัศมีแนวท่อก๊าซเท่านั้น เพราะการลงทุนค่อนข้างสูงถึง 25 ล้านบาทต่อสถานีบริการ ซึ่งการขยายปั๊มก๊าซเอ็นจีวีนอกแนวท่อก๊าซจะทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงมาก ขณะที่จังหวัดในภาคอีสานส่วนใหญ่อยู่นอกแนวท่อก๊าซ
ปตท.ตระหนักถึงปัญหาก๊าซเอ็นจีวีที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ในภาคอีสาน ในปี 2555 นี้จึงมีแผนเพิ่มกำลังผลิตก๊าซเอ็นจีวี จากสถานีหลักที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น โดยจะเพิ่มกำลังผลิตก๊าซเอ็นจีวีอีกวันละ 175 ตัน จากเดิมที่มีกำลังผลิตประมาณ 400 ตัน/วัน
“ภาพรวมการผลิตก๊าซเอ็นจีวีทั้งประเทศปีนี้ ปตท.จะเพิ่มสถานีบริการอีก 33 แห่ง จากเดิมที่มีปั๊มก๊าซเอ็นจีวี 470 แห่ง เป็น 503 แห่งภายในสิ้นปี 55 โดยจะเพิ่มกำลังผลิตก๊าซเอ็นจีวีอีก 32% หรือเพิ่มเป็น 1,450 ตัน/วัน ซึ่งจะมีซัปพลายเอ็นจีวีรองรับความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ทั้งประเทศได้เพียงพอ”แหล่งข่าวกล่าว และว่า
เชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ปัญหาก๊าซเอ็นจีวีขาดแคลนลงได้ แต่ต้องขึ้นกับปัจจัยราคาน้ำมันในตลาดโลกเป็นหลัก เพราะหากราคาน้ำมันปรับขึ้นต่อเนื่อง จะทำให้ผู้ใช้รถยนต์หันมาติดตั้งใช้ก๊าซเอ็นจีวีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ทั้งนี้ ความต้องการใช้ก๊าซเอ็นจีวีในรถยนต์ขยายตัวในลักษณะก้าวกระโดด จากจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2548 ที่มีการส่งเสริมการใช้ก๊าซเอ็นจีวีในยานยนต์ มีรถยนต์ใช้ก๊าซเอ็นจีวีทั้งประเทศที่ 10,000 คัน ณ ระดับราคาน้ำมันดิบที่ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปัจจุบันปี 55 ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยที่ 116 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มีรถยนต์ใช้ก๊าซเอ็นจีวีมากกว่า 300,000 คันแล้ว
ในอนาคตอันใกล้จะมีโครงการขยายวางแนวท่อส่งก๊าซเข้ามาในพื้นที่ภาคอีสาน จาก อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เข้ามาถึง จ.นครราชสีมา และวางท่อจาก อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ไปยัง จ.นครสวรรค์ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2557 จะทำให้การส่งก๊าซเอ็นจีวีให้สถานีบริการก๊าซเอ็นจีวีในพื้นที่ภาคอีสาน และภาคเหนือมีประสิทธิภาพดีขึ้น
